BOI ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน
เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนข้อเท็จจริงบริษัทฯ ประกอบกิจการทั้งที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนและไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน โดยกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนจะมีหลายกิจการ และแต่ละกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์แตกต่างกัน เนื่องจาก มาตรา 35(1) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราช บัญญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2544 กำหนดให้ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับกำไรสุทธิที่ ได้รับจากการลงทุนในอัตราร้อยละห้าสิบของอัตราปกติมีกำหนดเวลา ไม่เกินห้าปี นับจากวันที่กำหนดระยะเวลาตามมาตรา 31 วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง แล้วแต่กรณี สิ้นสุดลง หรือนับจากวันที่เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมในกรณีที่ ผู้ได้รับการส่งเสริมไม่ได้รับยกเว้นภาษี เงินได้นิติบุคคล บริษัทฯ เห็นว่า การใช้สิทธิลดหย่อน ภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับกำไรสุทธิที่ได้รับจากการลงทุนในอัตราร้อยละห้าสิบตามมาตรา 35(1) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520 จะใช้ลดหย่อนกับกำไรสุทธิของแต่ละ บัตรที่ได้รับสิทธิเพิ่มตามมาตรา 35(1) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนก่อน หลังจากนั้น ให้นำกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิของแต่ละบัตรมารวมกันเพื่อคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทฯ จึงขอทราบว่า ความเห็นของบริษัทฯ ถูกต้องหรือไม่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 31 มาตรา 35(1) และ พรบ.ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520แนววินิจฉัยตามข้อเท็จจริง บริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ตามบัตรส่งเสริมการลงทุนมากกว่า 1 บัตร ซึ่ง มีสิทธิประโยชน์และเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป การใช้สิทธิประโยชน์ในบัตรส่งเสริมการลงทุน แต่ละบัตร เพื่อให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตามบัตรส่งเสริม การลงทุน บริษัทฯ จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไข และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละบัตร ส่งเสริมการลงทุนนั้น โดยบริษัทฯ ต้องคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิของแต่ละกิจการแยก ต่างหากจากกัน แต่ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลให้นำกำไรสุทธิและ ขาดทุนสุทธิของกิจการทั้งที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและที่ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ นิติบุคคลมารวมเข้าด้วยกันก่อน แล้วจึงจะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิ ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในอัตราร้อยละห้าสิบของอัตราปกติ ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0706/1357 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2549 |