Skip to Content

พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 755) พ.ศ. 2565 การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการนำเข้ายาเวชภัณฑ์ และเครื่องมือแพทย์ ต้าน COVID-19 สำหรับบริจาคเป็นสาธารณกุศล

พระราชกฤษฎีกา

ออกตามความในประมวลรัษฎากร

ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 755)

.ศ. 2565

 ----------------------

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ

พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ให้ไว้ ณ วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

เป็นปีที่ 7 ในรัชกาลปัจจุบัน

 

 

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม ในบางกรณี

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 755) พ.ศ. 2565”

มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา 3 ในพระราชกฤษฎีกานี้

“สถานพยาบาลของทางราชการ” หมายความว่า สถานพยาบาลซึ่งเป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และให้หมายความรวมถึง

(1) สถานพยาบาลของสถาบันการศึกษาของรัฐ

(2) สถานพยาบาลของสถาบันการศึกษาหรือวิจัยที่เป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ

(3) สถานพยาบาลขององค์การมหาชนตามกฎหมายว่าด้วยองค์การมหาชน

(4) สถานพยาบาลของรัฐวิสาหกิจที่เป็นองค์การของรัฐบาลหรือหน่วยงานธุรกิจที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ

(5) สถานพยาบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

(6) สถานพยาบาลของหน่วยงานอื่นของรัฐ

(7) สถานพยาบาลของสภากาชาดไทย

มาตรา 4 ให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการนำเข้าสินค้าที่ใช้รักษา วินิจฉัยหรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อบริจาคให้แก่

(1) สถานพยาบาลของทางราชการ

(2) หน่วยงานของรัฐนอกจากที่กล่าวใน (1)

(3) องค์การหรือสถานสาธารณกุศล หรือสถานพยาบาล ตามมาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร ที่มีคุณสมบัติตามที่อธิบดีประกาศกำหนด

ทั้งนี้ สำหรับการนำเข้าและการบริจาคที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566 และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด

มาตรา 5 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 และภาษีมูลค่าเพิ่มตามหมวด 4 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สิน หรือการขายสินค้า อันเนื่องมาจากการบริจาคตามมาตรา 4 โดยผู้โอนจะต้องไม่นำต้นทุนของทรัพย์สินหรือสินค้า ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีดังกล่าวมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ทั้งนี้ สำหรับการบริจาคที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566 และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด

มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

 

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

        นายกรัฐมนตรี

 

 

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนภาคเอกชนที่ได้มีการจัดหาสิ่งของและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการรักษาผู้ป่วย และการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 720) พ.ศ. 2564 มีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 แต่โดยที่สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สมควรยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการนำเข้าสินค้าที่ใช้รักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับการบริจาคสินค้าดังกล่าว ให้แก่สถานพยาบาล หน่วยงานของรัฐ หรือองค์การหรือสถานสาธารณกุศลที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566 จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

 

 

 (เล่ม 139 ตอนที่ 44 ก ราชกิจจานุเบกษา 18 กรกฎาคม 2565)

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)