Skip to Content

พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 689) พ.ศ. 2562 ยกเว้นภาษีเงินได้บางกรณีให้แก่กองทุนรวมและผู้ถือหน่วยลงทุน

พระราชกฤษฎีกา

ออกตามความในประมวลรัษฎากร

ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 689)

.ศ. 2562

------------------------- 

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ

พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ให้ไว้ ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน

 

 

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลบางกรณี

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 689) พ.ศ. 2562”

มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา 3 ให้ยกเลิก

(1) พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการ ลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 262) พ.ศ. 2536

(2) พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 263) พ.ศ. 2536

มาตรา 4 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 2 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร
ให้แก่ผู้มีเงินได้ สำหรับเงินได้จากการขายหน่วยลงทุนในกองทุนซึ่งจัดตั้งและดำเนินการโดยบริษัทจัดการกิจการลงทุนตามโครงการในการประกอบกิจการจัดการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน ทั้งนี้ เฉพาะเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป

มาตรา 5 ผู้มีเงินได้ซึ่งเป็นผู้อยู่ในประเทศไทยที่ได้รับเงินส่วนแบ่งของกำไรจากกองทุนซึ่งจัดตั้งและดำเนินการโดยบริษัทจัดการกิจการลงทุนตามโครงการในการประกอบกิจการจัดการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชนและผู้มีเงินได้นั้นยอมให้ผู้จ่ายเงินได้หักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 10.0 ของเงินส่วนแบ่งของกำไร เมื่อถึงกำหนดยื่นรายการ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินส่วนแบ่งของกำไรดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทั้งนี้ สำหรับเงินส่วนแบ่งของกำไรที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 และเฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นคืนหรือไม่ขอเครดิตเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้น ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

มาตรา 6 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 2 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่กองทุนซึ่งจัดตั้งและดำเนินการโดยบริษัทจัดการกิจการลงทุนตามโครงการในการประกอบกิจการจัดการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน สำหรับเงินได้ตามมาตรา 40 (4) และ (8) แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ เฉพาะเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป

มาตรา 7 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 2 และส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ผู้มีเงินได้ สำหรับเงินส่วนแบ่งของกำไรที่ได้จากกองทุนรวมตราสารหนี้ ทั้งนี้ เฉพาะเงินได้ที่ได้รับหรือที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป

กองทุนรวมตราสารหนี้ตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า กองทุนรวมที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ลงทุนในตราสารหนี้ตามสัดส่วนที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุน
ประกาศกำหนด

มาตรา 8 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและประกอบกิจการในประเทศไทย สำหรับเงินได้จากการขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ตามมาตรา 7 โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวต้องไม่นำต้นทุนและรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับเงินได้นั้น มาหักเป็นรายจ่าย ทั้งนี้ เฉพาะเงินได้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป

มาตรา 9 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่กองทุนรวมที่เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ สำหรับเงินได้ตามมาตรา 40 (4) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่เป็นผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาซื้อตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออกและจำหน่ายครั้งแรกในราคาต่ำกว่าราคาไถ่ถอน โดยกองทุนรวมดังกล่าวต้องมิใช่ผู้ทรงคนแรกของตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้นั้น ทั้งนี้ เฉพาะเงินได้ที่จ่ายให้แก่กองทุนรวมตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป

มาตรา 10 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากรสำหรับเงินได้ตามมาตรา 40 (4) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะเงินได้ที่จ่ายตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป ให้แก่

(1) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

(2) กองทุนรวมที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมแก่สำนักงานประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

มาตรา 11 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่กองทุนรวมที่เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศที่รับโอนตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 สำหรับเงินได้ตามมาตรา 40 (4) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร ที่เกิดขึ้นจากตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้นั้น ทั้งนี้ เฉพาะเงินได้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562

มาตรา 12 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่กองทุนรวมที่เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย สำหรับเงินได้ตามมาตรา 40 (4) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร ที่เกิดขึ้นจากตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ รัฐบาลต่างประเทศ องค์การของรัฐบาลต่างประเทศหรือนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศเป็นผู้ออก ทั้งนี้ เฉพาะเงินได้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 และที่เกิดขึ้นก่อนที่กองทุนรวมจะเป็นผู้ทรงตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้นั้น

มาตรา 13 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับเงินส่วนแบ่งของกำไรที่ได้จากกองทุนรวมที่เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย หรือกองทุนซึ่งจัดตั้งและดำเนินการโดยบริษัทจัดการกิจการลงทุนตามโครงการในการประกอบกิจการจัดการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน ทั้งนี้ เฉพาะเงินส่วนแบ่งของกำไรที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป ให้แก่

(1) บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย สำหรับเงินส่วนแบ่งของกำไรที่ได้จำนวนกึ่งหนึ่ง

(2) บริษัทจดทะเบียน สำหรับเงินส่วนแบ่งของกำไรที่ได้ทั้งจำนวน

ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับในกรณีที่บริษัทตาม (1) หรือ (2) มีเงินได้ที่เป็นเงินส่วนแบ่งของกำไร โดยถือหน่วยลงทุนที่ก่อให้เกิดเงินส่วนแบ่งของกำไรนั้นไม่ถึงสามเดือนนับแต่วันที่ได้หน่วยลงทุนนั้นมาถึงวันที่มีเงินได้ดังกล่าว หรือได้โอนหน่วยลงทุนไปก่อนสามเดือนนับแต่วันที่มีเงินได้กองทุนรวมที่เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยตามวรรคหนึ่ง ไม่รวมถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน และกองทุนรวม

อสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

มาตรา 14 กองทุนรวมที่เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยได้รับเงินได้ตามมาตรา 40 (4) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร และถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 15.0 ของเงินได้ หรือในกรณีที่ผู้จ่ายเงินได้เป็นรัฐบาลหรือองค์การของรัฐบาล หากกองทุนรวมนั้นยอมให้หักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 15.0 ของเงินได้ สำหรับเงินได้ที่จ่ายให้แก่กองทุนรวมตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เมื่อถึงกำหนดยื่นรายการ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้ดังกล่าวมารวมคำนวณเป็นรายได้ ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่ไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นคืนหรือไม่ขอเครดิตเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้น ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

มาตรา 15 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

 

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

         นายกรัฐมนตรี

 

-----------------------------------------------------------------------------------------

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวมตามประมวลรัษฎากร โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 52) พ.ศ. 2562 ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ไทยและการลงทุนในกองทุนรวม สมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินหรือผลประโยชน์อื่นใดที่ได้รับอันเนื่องมาจากกองทุนรวมหรือที่เกี่ยวกับกองทุนรวม บางกรณี จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

 

(เล่ม 136 ตอนที่ 117 ก ราชกิจจานุเบกษา 12 พฤศจิกายน 2562)

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)