Skip to Content

พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 573) พ.ศ. 2556 การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทเดิมอันได้ควบเข้ากัน หรือเป็นผู้โอนกิจการและจดทะเบียนเลิก แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 10

พระราชกฤษฎีกา

ออกตามความในประมวลรัษฎากร

ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 573)

พ.ศ. 2556

------------------------

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

ให้ไว้ ณ วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เป็นปีที่ 68 ในรัชกาลปัจจุบัน

 

 

                   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

                   โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ บางกรณี

                   อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 187 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 33 และมาตรา 41 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

                   มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 573) พ.ศ. 2556

                   มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

                   มาตรา 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 5 จตุวีสติ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2500

                   มาตรา 5 จตุวีสติ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวล รัษฎากร ให้แก่บริษัทซึ่งเป็นบริษัทเดิมอันได้ควบเข้ากันหรือเป็นผู้โอนกิจการและจดทะเบียนเลิก ในกรณีที่ได้มีการควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กัน ระหว่างบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจประกันชีวิตธุรกิจประกันวินาศภัย ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจเงินทุนหรือธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ สำหรับเงินได้ที่เป็นเงินสำรองตามมาตรา 65 ตรี (1) (ก) (ข) หรือ (ค) แห่งประมวลรัษฎากร และต้องนำมารวมเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่ควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันตามมาตรา 74 (2) และ (3) แห่งประมวลรัษฎากรแล้วแต่กรณี

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
      
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
        
นายกรัฐมนตรี

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่ในการควบเข้ากันหรือการโอนกิจการ ทั้งหมดให้แก่กัน ระหว่างบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันวินาศภัย ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ธุรกิจเงินทุน หรือธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ บริษัทเดิมอันได้ควบเข้ากันหรือเป็นผู้โอนกิจการและจดทะเบียนเลิก จะต้องคำนวณกำไรสุทธิเพื่อคำนวณภาษีเงินได้ตามมาตรา 74 แห่งประมวลรัษฎากร โดยต้องนำเงินสำรอง ที่ได้กันไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต กฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย หรือกฎหมายว่าด้วยธุรกิจ สถาบันการเงิน ที่ได้ลงรายการเป็นรายจ่ายไปแล้วกลับมาคำนวณเป็นรายได้ ทำให้บริษัทดังกล่าวมีภาระภาษีเงินได้เป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการควบเข้ากันหรือการโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันในภาคธุรกิจดังกล่าว สมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทเดิมอันได้ควบเข้ากันหรือเป็นผู้โอนกิจการและจดทะเบียนเลิก สำหรับเงินสำรองที่กันไว้ตามมาตรา 65 ตรี (1) (ก) (ข) หรือ (ค) แห่งประมวลรัษฎากร แล้วแต่กรณี จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

 (ร.จ. ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 130 ตอนที่ 123 ก วันที่ 23 ธันวาคม 2556)

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)