พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 534) พ.ศ. 2555 การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินปันผลให้แก่บริษัทมหาชนจำกัดหรือบริษัทจำกัดใหม่อันได้ควบเข้ากันหรือเป็นผู้รับโอนกิจการทั้งหมดจากบริษัทอื่น แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 10
พระราชกฤษฎีกา ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินปันผลให้แก่บริษัทมหาชนจำกัดหรือบริษัทจำกัดใหม่อันได้ควบเข้ากันหรือเป็นผู้รับโอนกิจการทั้งหมดจากบริษัทอื่น บางกรณี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 187 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 33 และมาตรา 41 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 534) พ.ศ. 2555” มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 5 เตวีสติ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2500 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือโดยที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนในการปรับโครงสร้างกิจการโดยการควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทยแต่การควบเข้ากันหรือการโอนกิจการมีผลทำให้บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นจากการควบเข้ากันหรือบริษัทผู้รับโอนกิจการทั้งหมดจากบริษัทอื่น ต้องนำเงินได้ที่เป็นเงินปันผลจากบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือจากกองทุนรวมที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มารวมคำนวณเป็นรายได้ อันก่อให้เกิดความแตกต่างจากกรณีที่บริษัทที่ไม่ได้ควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กัน ซึ่งไม่ต้องนำเงินปันผลมาคำนวณเป็นรายได้ตามมาตรา 65 ทวิ (10) แห่งประมวลรัษฎากร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้บริษัทมีการควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทยและเพื่อให้การจัดเก็บภาษีจากเงินปันผลเป็นไปในหลักการเดียวกัน สมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทใหม่อันได้ควบเข้ากันหรือบริษัทผู้รับโอนกิจการทั้งหมดจากบริษัทอื่นสำหรับเงินปันผลที่ได้จากบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย หรือที่ได้จากกองทุนรวมที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ (ร.จ. ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 129 ตอนที่ 12 ก วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555) |