พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 489) พ.ศ. 2552 การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 239
พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 489) พ.ศ. 2552 -------------------------------------------- ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552 เป็นปีที่ 64 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 187 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 81(1)(น) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ. 2534 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 33 และมาตรา 41 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 489 ) พ.ศ. 2552” มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (18) ของมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (13) ของมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ.2534
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากการขายสินค้าหรือการให้บริการของสถาบันคุ้มครองเงินฝากซึ่งจัดตั้งโดยพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551 เป็นการประกอบกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของสถาบันคุ้มครองเงินฝากในการคุ้มครองเงินฝากของผู้ฝากเงินในสถาบันการเงิน และในการเสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงินสมควรยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ (ร.จ.ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 126 ตอนที่ 67 ก วันที่ 8 กันยายน 2552) |