พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 205) พ.ศ. 2532 ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ให้แก่กองทุนเฉพาะกิจ 7233 Tue, Oct 4, 2022 พระราชกฤษฎีกา 123 พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 205)พ.ศ. 2532--------------------------ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.ให้ไว้ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2532เป็นปีที่ 44 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและมาตรา 3 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 250) พ.ศ. 2532” มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่มาตรา 3 ให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2532 เป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 2 หมวด 3 ในลักษณะ 2แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่กองทุนเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้นในหมู่บ้านเพื่อดำเนินงานหาประโยชน์และให้บริการแก่ประชาชนส่วนรวมในหมู่บ้าน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนพัฒนาชนบท สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับจากการดำเนินกิจการในโครงการที่ได้รับเงินยืมสมทบจากองทุนพัฒนาชนบท ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังกล่าว เฉพาะจำนวนเงินได้พึงประเมินในส่วนที่ไม่เกิน 550,000 บาท ต่อปี และเฉพาะโครงการที่มีการใช้คืนเงินยืมสมทบตามแผนการใช้คืนเงินยืมสมทบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรี --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่กองทุนเฉพาะกิจ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนพัฒนาชนบท สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับจากการดำเนินกิจการในโครงการที่ได้รับเงินยืมสมทบจากองทุนพัฒนาชนบท ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว บางกรณีเพื่อสนับสนุนแนวนโยบายการพัฒนาชนบทแห่งชาติให้ประชาชนในชนบทรวมกลุ่มกันเพื่อพัฒนาหมู่บ้านของตนเองได้ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ (ร.จ.เล่ม 106 ตอนที่ 120 วันที่ 1 สิงหาคม 2532)