Skip to Content

ให้ผู้จ่ายนำส่งภาษี ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายเงินค่าจ้างให้กับบริษัทต่างประเทศ

เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายเงินค่าจ้างให้กับบริษัทต่างประเทศ


ข้อเท็จจริง

บริษัท ก. จำกัด ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาและให้บริการด้านวิศวกรรมโยธาแก่

หน่วยงานรัฐ โดยการประมูลงาน และให้บริการแก่บริษัทเอกชนโดยทั่วไป บริษัทฯ ได้ทำการจ้างเหมา

ช่วงงานบริการกับบริษัทนิติบุคคลต่างประเทศที่ประเทศนอร์เวย์ และเมื่อถึงงวดที่ต้องชำระเงิน บริษัทฯ

จะทำการโอนเงินผ่านธนาคารไปยังประเทศนอร์เวย์ ทุกครั้งที่มีการโอนเงินบริษัทฯ จะหักภาษี ณ ที่จ่าย

ไว้ 15% จากใบแจ้งหนี้ เพื่อชำระภาษีตามแบบ ภ.ง.ด.54 และบริษัทฯ จะชำระภาษีมูลค่าเพิ่มอัตรา 7%

(1) การที่บริษัทฯ หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ 15% สำหรับเงินที่ส่งไปประเทศนอร์เวย์ เพื่อ

ชำระค่าบริการ และนำส่งตามแบบ ภ.ง.ด.54 นั้น ถูกต้องหรือไม่

(2) ภาษีมูลค่าเพิ่มอัตรา 7% ที่นำส่งตามแบบ ภ.พ.36 นั้น บริษัทฯ สามารถนำมาใช้

เป็นภาษีซื้อในเดือนที่มีการชำระได้หรือไม่

(3) ถ้าตามข้อ (1) บริษัทฯ ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% บริษัทฯ ยังคงต้อง

ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มตามข้อ (2) อีกด้วยหรือไม่ และภาษีตามข้อ (1) ที่ชำระไปแล้วสามารถเรียกคืนได้

หรือไม่ อย่างไร


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 27 ตรี, มาตรา 83/6 (2), มาตรา 86/14

แนววินิจฉัย

(1) กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย

การที่บริษัทฯ ได้จ่ายเงินค่าบริการให้กับนิติบุคคลในประเทศนอร์เวย์ สำหรับการ

ให้คำปรึกษาและให้บริการด้านวิศวกรรมโยธา หากการให้บริการดังกล่าวไม่มีความซับซ้อนหรือต้องใช้

เทคโนโลยีชั้นสูง ถือเป็นเงินได้เนื่องจากการรับทำงานให้ เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมิน ตาม

มาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากรและเข้าลักษณะเป็นเงินได้ประเภทกำไรจากธุรกิจ ตามนัย

อนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนฯ ระหว่างรัฐบาลแห่งประเทศไทย กับรัฐบาลแห่งประเทศนอร์เวย์

และหากนิติบุคคลในประเทศนอร์เวย์ ไม่มีสถานประกอบการถาวรในประเทศไทย ตามนัยข้อ 5 แห่ง

อนุสัญญาฯ นิติบุคคลดังกล่าวไม่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีเงินได้ในประเทศไทย ตามข้อ 7 แห่งอนุสัญญาฯ

และมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2505 บริษัทฯ ผู้จ่ายเงินได้จึงไม่มีหน้าที่ต้อง

หักภาษี ณ ที่จ่าย นำส่งแต่อย่างใด แต่เมื่อบริษัทฯ ได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แล้วนิติบุคคลผู้ถูกหักภาษี ณ

ที่จ่าย ย่อมมีสิทธิขอคืนภาษีได้ โดยยื่นคำร้องขอคืนภาษี ตามแบบค.10 ภายในกำหนดเวลา 3 ปี นับแต่

วันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลายื่นรายการภาษี ตามมาตรา 27 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร

(2) กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม

การให้คำปรึกษาด้านวิศวกรรมโยธาในกรณีดังกล่าว เป็นการให้บริการใน

ต่างประเทศ และได้มีการใช้บริการในประเทศไทย นิติบุคคลในประเทศนอร์เวย์ จึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษี

มูลค่าเพิ่ม โดยบริษัทฯ ผู้จ่ายเงินค่าบริการมีหน้าที่นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 83/6 (2) แห่ง

ประมวลรัษฎากร และสิทธิประโยชน์ตามอนุสัญญา เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน ครอบคลุมเฉพาะภาษีที่

เก็บจากเงินได้เท่านั้น ไม่มีผลต่อการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด

นอกจากนั้น การที่บริษัทฯ ได้นำส่งเงินภาษีมูลค่าเพิ่มที่นิติบุคคลในประเทศ

นอร์เวย์มีหน้าที่ต้องเสียตามแบบ ภ.พ.36 บริษัทฯ ย่อมมีสิทธินำภาษีซื้อมาใช้ในการคำนวณภาษีในเดือนที่

มีการนำส่งภาษีและได้รับใบเสร็จรับเงินที่กรมสรรพากรออกให้ โดยให้ถือใบเสร็จรับเงินเป็น

ใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/14 แห่งประมวลรัษฎากร




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811(กม)/924 ลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2541

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)