Skip to Content

โทษ ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการขอคืนเงินค่าปรับอาญา

เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการขอคืนเงินค่าปรับอาญา


ข้อเท็จจริง

ห้างฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.51) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี

1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2542 ในวันที่ 30 สิงหาคม 2542 ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2543

ห้างฯ ได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 เพิ่มเติม ครั้งที่ 1 แต่เจ้าหน้าที่สำคัญผิดว่า ห้างฯ มิได้ยื่น ภ.ง.ด.51

ภายในกำหนดเวลา เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 17 แห่งประมวลรัษฎากร มีความผิดตามมาตรา 35 แห่ง

ประมวลรัษฎากร จึงดำเนินการเปรียบเทียบตามมาตรา 3 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร เป็นเงิน 2,000

บาท ซึ่งห้างฯ ยินยอมชำระค่าปรับโดยมิได้โต้แย้งแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2543 ห้างฯ

ได้ยื่นร้องขอคืนเงินภาษีอากร (ค.10) โดยอ้างว่า ได้นำส่งภาษีไว้ผิดหรือซ้ำ จังหวัดฯ เห็นว่า การ

เปรียบเทียบปรับดังกล่าว หากผู้ต้องหายินยอมชำระค่าปรับแล้วผู้ต้องหามิต้องถูกดำเนินคดีในความผิดนั้น

และความผิดดังกล่าวเป็นอันเลิกกันและเป็นอันเสร็จเด็ดขาดตามมาตรา 37 และมาตรา 38 แห่ง

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รวมทั้งกรณีดังกล่าวมิได้เป็นการขอคืนตามมาตรา 27 ตรี แห่ง

ประมวลรัษฎากร อีกทั้งไม่มีระเบียบใดให้คืนได้จึงไม่อาจพิจารณาให้คืนตามคำร้องได้ สำนักงาน

สรรพากรภาคฯ มีความเห็นว่า การที่เจ้าหน้าที่สำคัญผิดว่า ห้างฯ มิได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 ภายใน

กำหนดเวลา และได้ดำเนินการเปรียบเทียบโดยกำหนดค่าปรับแก่ห้างฯ ซึ่งห้างฯ ได้ยินยอมชำระค่าปรับ

โดยมิได้โต้แย้งใด ๆ นั้น เงินค่าปรับอาญาดังกล่าว เป็นทรัพย์ที่กรมสรรพากรได้มาโดยปราศจากมูลอัน

จะอ้างกฎหมายได้และเป็นทางให้ห้างฯ ต้องเสียเปรียบ ถือเป็นลาภมิควรได้ตามมาตรา 406 แห่ง

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อห้างฯ ได้ยื่นคำร้องขอคืนเงินค่าปรับอาญากรณีดังกล่าว

กรมสรรพากรจึงต้องคืนเงินค่าปรับอาญาจำนวนดังกล่าวแก่ห้างฯ ตามระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการ

คืนเงินภาษีอากร พ.ศ. 2539


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 35

แนววินิจฉัย

ห้างฯ ได้ชำระค่าปรับอาญาตามมาตรา 35 แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากเจ้าหน้าที่

สำคัญผิดว่า ห้างฯ ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 เกินกำหนดเวลา แต่ห้างฯ ได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 เพิ่มเติมจาก

ฉบับแรก ที่ได้ยื่นภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด การยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 เพิ่มเติมดังกล่าว จึงไม่อยู่ใน

บังคับต้องชำระค่าปรับอาญาแต่อย่างใด การที่เจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับและเรียกเก็บค่าปรับอาญาจาก

ห้างฯ ไปแล้ว ถือเป็นลาภมิควรได้ตามมาตรา 406 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้น เมื่อ

ห้างฯ ได้ยื่นคำร้อง ค.10 ขอคืนเงินค่าปรับอาญากรณีดังกล่าว กรมสรรพากรจึงต้องคืนเงินค่าปรับอาญา

นั้นให้แก่ห้างฯ




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/1778 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2544

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)