แหล่งเงินได้ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการส่งพนักงานไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ
เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการส่งพนักงานไปปฏิบัติงานในต่างประเทศข้อเท็จจริงลูกค้าของสำนักงานฯ เป็นบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย (บริษัทฯ) ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยโดยมีบริษัทแม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และมีบริษัทในเครือเดียวกันประกอบกิจการอยู่ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน เป็นต้น บริษัทฯ ได้ส่ง พนักงานซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทฯ (พนักงาน) เป็นคนไทยตำแหน่งระดับบริหารงานด้านการเงิน ไป ดำรงตำแหน่งระดับบริหารงานด้านการเงินของบริษัทในเครือ ทั้งนี้ พนักงาน จะต้องไปทำงานประจำอยู่ ณ สิงคโปร์เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยเดินทางไปสิงคโปร์เย็นวันจันทร์เพื่อไปทำงานวันอังคาร ถึง วัน ศุกร์ และเย็นวันศุกร์จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่ออยู่กับครอบครัว และวันจันทร์ทำงานให้บริษัทฯ ซึ่งรวมแล้วอยู่ในประทศไทยในปีภาษีเกิน 180 วัน ส่วนงานของพนักงานมีหน้าที่กำกับดูแลบริหารงานด้าน การเงินให้บริษัทฯ ในอัตราส่วนร้อยละ 25 ของเวลาทำงานทั้งหมด ส่วนเวลาที่เหลือไปกำกับดูแล บริหารงานด้านการเงินให้บริษัทในเครืออื่น ๆ ซึ่งการทำงานบริหารด้านการเงินของบริษัทในสิงคโปร์ ไม่ได้เป็นการทำงานเพื่อบริษัทฯ แต่เป็นการทำงานเพื่อบริษัทในสิงคโปร์ และบริษัทฯ ได้จ่ายเงินเดือน ทั้งหมดเข้าบัญชีธนาคารของพนักงานในประเทศไทย โดยบริษัทในสิงคโปร์จะชำระเงินเดือนในอัตราส่วน ร้อยละ 75 ของเงินเดือนทั้งหมดคืนให้กับบริษัทฯ ซึ่งพนักงานฯ จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใน ประเทศสิงคโปร์โดยคำนวณจากเงินได้ร้อยละ 75 ของเงินเดือนทั้งหมด สำนักงานฯ จึงขอทราบว่า 1. พนักงานจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทยหรือไม่ 2. บริษัทฯ จะต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายจากเงินเดือนทั้งหมด หรือ จากร้อยละ 25 ของ เงินเดือนทั้งหมด 3. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เสียให้ประเทศสิงคโปร์ สามารถนำมาเครดิตภาษีใน ประเทศไทยได้หรือไม่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 40(1), มาตรา 41 วรรคหนึ่ง, มาตรา 50(1), มาตรา 56แนววินิจฉัย1. บริษัทฯ ซึ่งเป็นนายจ้างในประเทศไทยเป็นผู้จ่ายเงินได้ตามมาตรา 40(1) แห่ง ประมวลรัษฎากร ให้แก่พนักงาน บริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายจาก เงินเดือนทั้งหมดตามมาตรา 50(1) แห่งประมวลรัษฎากร และพนักงานซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ต้องนำเงินได้ ดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 41 วรรคหนึ่ง และมาตรา 56 แห่ง ประมวลรัษฎากร 2. กรณีพนักงานซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ได้เสียภาษีเงินได้ในประเทศสิงคโปร์ หากเงินได้ใน ประเทศสิงคโปร์นั้น ผู้มีเงินได้ต้องนำมาเสียภาษีในประเทศไทยด้วย ผู้มีเงินได้มีสิทธินำภาษีเงินได้ที่เสีย ไว้ในประเทศสิงคโปร์มาเครดิตภาษีเงินได้ที่ต้องเสียในประเทศไทยในปีภาษีเดียวกันนั้นได้ ตามนัยข้อ 23 วรรคสอง ของอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ เพื่อ การเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0706/4932 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2546 |