Skip to Content

แหล่งเงินได้ ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีแปลงหนี้เป็นทุน

เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีแปลงหนี้เป็นทุน


ข้อเท็จจริง

1. บริษัท อ. และกลุ่มบริษัทในเครือได้เข้าสู่ระบบการฟื้นฟูกิจการภายใต้พระราชบัญญัติ

ล้มละลาย พุทธศักราช 2483 ตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2543 โดยตั้งให้

บริษัท ฟ. เป็นผู้ทำแผน และศาลได้ให้ความเห็นชอบด้วยแผนฯ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2543 ภายใต้

แผนฯ กำหนดให้ดอกเบี้ยค้างชำระสำหรับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2541 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม

2543 จำนวน 756 ล้านเหรียญสหรัฐ จะถูกแปลงเป็นทุนของบริษัทฯ ร้อยละ 75 (จำนวน 5,850 ล้าน

หุ้น) ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ (ส่วนทุนเจ้าหนี้) การแปลงหนี้เป็นทุนดังกล่าวถือเสมือนเป็นการ

ชำระดอกเบี้ยค้างชำระแก่เจ้าหนี้ซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างประเทศที่มิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย บริษัทฯ

มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้นำส่งตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร แต่ภายใต้แผนฯ ดังกล่าวกำหนด

ให้บริษัทฯ เป็นผู้รับภาระภาษีที่เกิดขึ้นจากการชำระหนี้ใด ๆ ในการแปลงหนี้เป็นทุนเพื่อชำระดอกเบี้ย

ค้างชำระ บริษัทฯ จึงหารือว่า การแปลงหนี้เป็นทุนดังกล่าวถือเป็นการโอนทรัพย์สินอย่างหนึ่ง เจ้าหนี้

ต่างประเทศมีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 340)

พ.ศ. 2541 ใช่หรือไม่


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 40(4), มาตรา 40 วรรคหนึ่ง, มาตรา 40 วรรคสอง

แนววินิจฉัย

1. ตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการ

ยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 340) พ.ศ. 2541 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล

ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการ

โอนทรัพย์สิน การขายสินค้าหรือการให้บริการ และการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการดำเนินการ

ตามแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ที่ศาลได้มีคำสั่งเห็นชอบแล้ว

การที่บริษัท อ. และกลุ่มบริษัทในเครือ ลูกหนี้ ได้เข้าสู่แผนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ

ลูกหนี้ ที่ศาลได้มีคำสั่งเห็นชอบ ตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลายแล้ว เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2543 ตามแผน

ฟื้นฟูกิจการกำหนดให้แปลงหนี้ดอกเบี้ยค้างชำระ จำนวน 756 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นทุนของบริษัทฯ

ลูกหนี้ จำนวน 5,850 ล้านหุ้น เพื่อโอนให้แก่เจ้าหนี้ ตามแผนฟื้นฟูกิจการเจ้าหนี้มิได้มีการโอนทรัพย์สิน

ขายสินค้าหรือให้บริการแก่บริษัทฯ ลูกหนี้ เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะได้รับสิทธิ

ยกเว้นภาษีอากรตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 340) พ.ศ. 2541

2. การแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ ถือว่า เจ้าหนี้ได้รับชำระดอกเบี้ย จำนวน 756

ล้านเหรียญสหรัฐ จากบริษัทฯ ลูกหนี้แล้ว เงินดอกเบี้ยเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(4) แห่ง

ประมวลรัษฎากร และตามแผนฟื้นฟูกิจการกำหนดให้บริษัทฯ ลูกหนี้รับภาระภาษีจากการชำระหนี้ใด ๆ ใน

การแปลงหนี้แทนเจ้าหนี้ เงินค่าภาษีอากรที่บริษัทฯ ลูกหนี้ ออกแทนให้เจ้าหนี้ไม่ว่าทอดใด ถือเป็น

เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(4) แห่งประมวลรัษฎากร และเป็นเงินได้ในปีภาษีเดียวกันกับเงินได้ที่

ออกแทนให้นั้นตามมาตรา 40 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น เมื่อเจ้าหนี้ตาม

แผนฟื้นฟูกิจการเป็นนิติบุคคลต่างประเทศมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย บริษัทฯ เจ้าหนี้นั้นต้องเสีย

ภาษี บริษัทฯ ลูกหนี้ ในฐานะผู้จ่ายเงินมีหน้าที่หักภาษีจากเงินได้พึงประเมินที่เป็นดอกเบี้ยและค่า

ภาษีอากรที่ออกแทนให้เจ้าหนี้ตามอัตราภาษีเงินได้สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล แล้วนำส่ง

กรมสรรพากรภายใน 7 วัน นับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงินได้พึงประเมินนั้น ตามมาตรา 70 แห่ง

ประมวลรัษฎากร

3. กรณีบริษัทฯ ลูกหนี้ หากได้รับเงินได้จากการปลดหนี้หรือการประนอมหนี้ตามคำขอ

ประนอมหนี้หรือแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ลูกหนี้ ที่ศาลได้มีคำสั่งเห็นชอบตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย

บริษัทฯ ลูกหนี้ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 340)

พ.ศ. 2541




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0706(กม.02)/406 ลงวันที่ 18 เมษายน 2546

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)