แปลงเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทย ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการคำนวณค่าหรือราคาของเงินลงทุนระยะยาวในต่างประเทศ
เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการคำนวณค่าหรือราคาของเงินลงทุนระยะยาวในต่างประเทศข้อเท็จจริงบริษัทฯ ประกอบกิจการผลิตเครื่องสำอาง ได้มีการส่งเงินไปลงทุนในบริษัทในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกา โดยการลงทุนดังกล่าวเป็นการ ลงทุนระยะยาวเพื่อหวังเงินปันผลบริษัทฯ ได้บันทึกบัญชีโดยคำนวณค่าเป็นเงินตราไทยตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ได้มีการจ่ายไปจริงในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชี บริษัทฯ หารือว่า 1. ณ วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าวหรือทุกสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี บริษัทฯ ต้องคำนวณค่าหรือราคาของเงินลงทุนระยะยาวในต่างประเทศดังกล่าวเป็นเงินตราไทย ตามอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์รับซื้อ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้คำนวณไว้ ตามมาตรา 65 ทวิ (5) วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากรหรือไม่ 2. กรณีถ้าต้องคำนวณผลกำไรหรือขาดทุนจากการตีราคาทรัพย์สินจากเงินลงทุนระยะยาวในต่างประเทศดังกล่าว บริษัทฯ ต้องนำผลกำไรหรือขาดทุนมารวมคำนวณเป็นรายได้หรือค่าใช้จ่ายเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือไม่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 65 ทวิ (3) มาตรา 65 ทวิ (5)แนววินิจฉัยกรณีบริษัทฯ ได้มีการลงทุนระยะยาวเพื่อหวังเงินปันผลในบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกา บริษัทฯ ได้บันทึกต้นทุนของเงินลงทุน ดังกล่าวเป็นเงินตราไทย ตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่มีการจ่ายเงินชำระค่าหุ้น ตามมาตรา 65 ทวิ (3) แห่งประมวลรัษฎากร กรณีดังกล่าวเนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีภาระผูกพันเป็นเงินตราต่างประเทศที่เหลืออยู่ในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี บริษัทฯ จึงไม่ต้องปรับปรุงมูลค่าของเงินลงทุนหรือทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทย ตามมาตรา 65 ทวิ (5) วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0706/352 ลงวันที่ 14 มกราคม 2548 |