Skip to Content

เงินได้ที่ได้รับยกเว้น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินทดแทนที่ได้รับจากการปฏิบัติหน้าที่

เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินทดแทนที่ได้รับจากการปฏิบัติหน้าที่


ข้อเท็จจริง

1. นาย ก. พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เขต 3 ภาคกลาง จังหวัด

นครปฐม ได้รับอุบัติเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552 โดยได้รับเงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ ตามประกาศคณะ

กรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์และ ตามข้อบังคับ กฟภ.ว่าด้วยกองทุนสงเคราะห์และการสงเคราะห์ผู้ปฏิบัติงานใน กฟภ. พ.ศ. 2522 ใน

ลักษณะเหมาจ่ายครั้งเดียว ในปี พ.ศ. 2553 จำนวนเงิน 798,538.41 บาท ปัจจุบันนาย ก. ยังเป็นพนักงานของ กฟภ. มิได้ถูกเลิกจ้าง แต่อย่างใด

ขอทราบว่าเงินทดแทนที่ได้รับจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่ อย่างไร


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 42 (10) แห่งประมวลรัษฎากร

แนววินิจฉัย

1. คำว่า "ค่าชดเชย" มีความหมายตามกฎหมายดังต่อไปนี้

(1) ตามข้อ 4 ของประกาศคณะ

กรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ ลงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ซึ่งออกตาม

ความ ในมาตรา 13 (1) แห่งพระราชบัญญัติรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 กำหนดว่า "ค่าชดเชย" หมายความว่า เงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่

ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้างนอกเหนือจากเงินประเภทอื่นซึ่ง นายจ้างตกลงจ่ายให้แก่ลูกจ้าง

ข้อ 59 กำหนดว่า การเลิกจ้าง

หมายความว่า การกระทำใดที่นายจ้างไม่ให้ลูกจ้างทำงานต่อไปและไม่จ่ายค่าจ้างให้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุสิ้นสุดสัญญาจ้างหรือเหตุอื่น

ใดและหมายความรวมถึงกรณีที่ลูกจ้างไม่ได้ทำงานและไม่ได้รับค่าจ้างเพราะเหตุที่นายจ้างไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่ไม่รวมถึง

การพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุเกษียณอายุตามข้อบังคับ ข้อกำหนด ระเบียบ หรือคำสั่งของนายจ้าง

(2) ตามมาตรา 5 แห่งพระราช

บัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 บัญญัติว่า "ค่าชดเชย" หมายความว่า เงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้างนอกเหนือจากเงิน

ประเภทอื่นซึ่งนายจ้างตกลงจ่ายให้แก่ลูกจ้าง

ดังนั้น ค่าชดเชยที่จะได้รับยกเว้น

ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามข้อ 2 (51) แห่งกฎกระทรวงฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)ฯ ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์

พ.ศ. 2509 จะต้องเป็นค่าชดเชยที่ได้รับเนื่องจากการถูกเลิกจ้าง แต่ไม่รวมถึงค่าชดเชยที่ได้รับเพราะเหตุเกษียณอายุหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง

2. กรณีนาย ก. พนักงาน กฟภ. ได้รับอุบัติเหตุในขณะปฏิบัติหน้าที่ เมื่อ

วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552 และได้รับเงินทดแทนกรณีทุพพลภาพจากอุบัติเหตุดังกล่าว ตามข้อ 12 (10) ของประกาศคณะกรรมการรัฐ

วิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การจ่ายเงินทดแทน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2539 จำนวน 798,538.41 บาท โดยที่ กฟภ. มิได้เลิกจ้างนาย ก. แต่

อย่างใดนั้น เงินทดแทนที่นาย ก. ได้รับ มิใช่เงินชดเชยที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้างนอกเหนือจากเงินประเภทอื่นซึ่งนายจ้างตกลง

จ่ายให้แก่ลูกจ้าง ตามข้อ 4 ของประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ฯ ลงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 และ ตามมาตรา 5

แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 จึงไม่เข้าลักษณะเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานที่จะได้รับ ยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อ

เสียภาษีเงินได้ตามข้อ 2 (51) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)ฯ ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509 และข้อ 1 (ค) ของประกาศ

อธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2535 แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเงินได้ที่นาย ก. ได้รับดัง

กล่าวเป็นเงินที่จ่ายให้ลูกจ้างสำหรับการประสบอันตราย เข้าลักษณะเป็นเงินทดแทน ตามข้อ 4 ของประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐ

วิสาหกิจสัมพันธ์ฯ ลงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 และเข้าลักษณะเป็นเงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา จึงได้รับยก

เว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 42 (10) แห่งประมวลรัษฎากร




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0702/5866 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2555

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)