Skip to Content

เงินได้ที่ได้รับยกเว้น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีกิจการโรงเรียนเอกชน

เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีกิจการโรงเรียนเอกชน


ข้อเท็จจริง

นาย ม. ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนศูนย์ภาษา (โรงเรียนฯ) จากกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชน ประเภท โรงเรียนกวดวิชาและอาชีวศึกษาตามมาตรา 15(2) แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2525 ได้รับอนุญาตให้สอนภาษา อังกฤษ ภาษาจีน และกวดวิชาให้แก่นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ทั้งนี้ โรงเรียนฯ มีระเบียบการรับนักเรียนเข้าเรียน โดยต้องลงทะเบียนในแบบฟอร์มข้อมูลนักเรียนและเลือกลงทะเบียนตามรายวิชาที่ต้องการเรียน จึงขอหารือดังนี้

1. กรณีโรงเรียนฯ สอนภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และกวดวิชาให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป โดยผู้เรียนต้อง ลงทะเบียนและเรียนในสถานที่ของโรงเรียนฯ นั้น รายได้จากค่าสอนดังกล่าว ถือเป็นการให้บริการการศึกษาของโรงเรียนเอกชน ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่

2. กรณีเทศบาลต่างๆ ทำสัญญาจ้างโรงเรียนฯ ให้จัดหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษให้แก่เด็กนักเรียนของ โรงเรียนในสังกัดเทศบาลทุกระดับชั้น ห้องเรียนละ 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ตามหลักสูตรภาษาอังกฤษของกรมวิชาการผสมผสาน กับหลักสูตรการสอนภาษาอังกฤษของโรงเรียนฯ โดยเน้นการสนทนา การฟัง และการพูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก พร้อมทั้ง ดำเนินการจัดหาครูชาวต่างชาติไปสอนภาษาให้แก่เด็กนักเรียนตามตารางวันและเวลาที่โรงเรียนในสังกัดเทศบาลจัดให้ โดย นักเรียนที่มีความประสงค์จะเรียนในหลักสูตรดังกล่าว จะต้องลงทะเบียนเรียนตามแบบฟอร์มใบสมัครเรียนที่ทางโรงเรียนฯ กำหนด เพื่อเป็นไปตามระเบียบการรับสมัครนักเรียนของโรงเรียนฯ และสะดวกต่อการวัดผลการเรียนของนักเรียน พร้อมทั้ง ประเมินผลการสอนของครูผู้สอนโดยเทศบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่าย และโรงเรียนฯ จะออกใบเสร็จรับเงินค่าสอนใน นามของเทศบาลผู้จ่ายเงินได้นั้น รายได้จากค่าสอนดังกล่าว ถือเป็นการให้บริการการศึกษาของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมาย ว่าด้วยโรงเรียนเอกชนที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ และเทศบาลผู้จ่ายเงินได้ค่าสอน ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายหรือไม่


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 42(17) และมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร

แนววินิจฉัย

1. กรณีนาย ม. ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนฯ จากกระทรวงศึกษาธิการ ให้สอนภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และกวด วิชาให้แก่นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยผู้เรียนต้องลงทะเบียนและเรียนในสถานที่ของโรงเรียนศูนย์ภาษาฯ นั้น เนื่องจากพระราชบัญญัติฯ ฉบับดังกล่าว ได้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 แต่ตามมาตรา 159 แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 ยังคงให้ถือว่าโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2525 เป็นโรงเรียนตามพระราชบัญญัติฯ ฉบับนี้ ดังนั้น เงินได้จากกิจการของโรงเรียนราษฎร์ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ว่าด้วยโรงเรียนราษฎร์ เฉพาะที่เป็นเงินได้ค่าเล่าเรียนที่ได้รับจากนักเรียน แต่ไม่รวมถึงเงินได้จากการขายของ การรับจ้าง ทำของ หรือการให้บริการอื่นใดที่โรงเรียนราษฎร์ซึ่งเป็นโรงเรียนอาชีวศึกษาได้รับจากผู้ซึ่งมิใช่นักเรียน จึงได้รับยกเว้นภาษี เงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา 42(17) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2(1) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509 และรายรับที่ได้ จากการประกอบกิจการดังกล่าว ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(1)(ช) แห่งประมวลรัษฎากร

2. กรณีโรงเรียนฯ ทำสัญญารับจ้างเทศบาลในการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษให้แก่เด็กนักเรียน ของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลต่างๆ พร้อมทั้งดำเนินการจัดหาครูชาวต่างชาติไปสอนภาษาให้แก่เด็กนักเรียนตามตารางวัน และเวลาที่โรงเรียนในสังกัดเทศบาลจัดให้ โดยเทศบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายค่าสอนนักเรียนให้แก่โรงเรียนฯ เงินค่าจ้าง ที่โรงเรียนฯ ได้รับ เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ที่โรงเรียนฯ ได้รับจากบุคคล ภายนอกซึ่งมิใช่นักเรียนของโรงเรียน และไม่เข้าลักษณะเป็นเงินได้จากกิจการของโรงเรียนราษฎร์ที่จะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำ ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 42(17) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2(1) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)ฯ เมื่อเทศบาล จ่ายเงินได้ค่าสอนดังกล่าวให้แก่โรงเรียนฯ จึงมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1 ของยอดเงินได้พึงประเมิน ทั้งนี้ ตามมาตรา 50(4) แห่งประมวลรัษฎากร และรายรับดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการให้บริการ ตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0702/3449 ลงวันที่ 07 พฤษภาคม 2552

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)