Skip to Content

เงินได้จากการรับจ้างทำงานให้ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีรับทำงานวิจัยด้านเคมี

เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีรับทำงานวิจัยด้านเคมี


ข้อเท็จจริง

สำนักงานสรรพากรภาค แจ้งว่า นาย ส. ซึ่งจบการศึกษาปริญญาเอก สาขาวิศวกรรม

เคมี ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำอยู่ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย (เอกชน) ได้หารือกรณีการ

เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยมีข้อเท็จจริงสรุปได้ว่า นาย ส. ได้รับจ้างทำงานวิจัย และให้คำ

ปรึกษาแนะนำแก่บริษัทหนึ่งเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพการผลิตโดยมีการทำสัญญาว่าจ้างร่วมกัน

เป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะต้องทำงานนั้นให้สำเร็จลุล่วงในเวลาที่กำหนด ระยะเวลาในการจ่ายค่าจ้าง

และจำนวนเงินที่แน่นอน แบ่งจ่ายเป็นรายเดือนหรือทุกสามเดือน และยังได้รับจ้างทำงานวิจัยงานทาง

ด้านปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของโลหะโดยทำการทดลองเพื่อหาส่วนประกอบที่เหมาะสมให้แก่บริษัทอีก

แห่งหนึ่งด้วย โดยทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่มีการระบุระยะเวลาของโครงการที่แน่นอน

เนื่องจากงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นงานที่ต้องอาศัยระยะเวลาและไม่สามารถบอกเวลาที่งานวิจัย

นั้นจะประสบผลสำเร็จได้อย่างแน่นอน แต่จะได้รับค่าจ้างจำนวนแน่นอนเมื่องานสำเร็จลุล่วงในระดับหนึ่ง

นาย ส. ขอทราบว่า การรับทำงานวิจัยดังกล่าวเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(6) แห่งประมวลรัษฎากร

หรือไม่อย่างไร

สำนักงานสรรพากรภาค เห็นว่า การที่ นาย ส. จบการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขา

วิศวกรรมเคมี เป็นอาจารย์ประจำอยู่ที่ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย (เอกชน) ได้รับจ้าง

ทำงานวิจัยและให้คำปรึกษาแนะนำแก่บริษัทหนึ่งเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพการผลิตด้านเคมี ไม่

ถือว่าเป็นเงินได้จากวิชาชีพวิศวกรรม ตามมาตรา 40(6) แห่งประมวลรัษฎากร เพราะวิชาชีพ

วิศวกรรมหมายความว่าวิชาชีพการช่างในสาขาวิศวกรรมโยธาวิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมไฟฟ้า

วิศวกรรมอุตสาหการ วิศวกรรมเหมืองแร่และสาขาวิศวกรรมอื่นใด ซึ่งจะได้กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา

ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. 2505 แต่สาขาวิศวกรรมเคมี มิได้เป็นวิชาชีพวิศวกรรมตาม

นัยแห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ทั้งมิได้กำหนดเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกา ดังนั้น การที่นาย ส. รับ

ทำงานวิจัยดังกล่าวจึงถือเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40(2) แห่งประมวลรัษฎากร


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 40(2)

แนววินิจฉัย

เงินได้ที่ นาย ส. ได้รับจากการรับจ้างทำงานวิจัยและให้คำปรึกษาแนะนำดังกล่าวโดย

นาย ส. ได้ทำเพียงคนเดียวเงินที่ได้รับเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินเนื่องจากการรับทำงานให้ตาม

มาตรา 40(2) แห่งประมวลรัษฎากร หากนาย ส. ได้ทำโดยร่วมกับบุคคลอื่นหรือมีลูกจ้างหรือมี

สำนักงานและมีค่าใช้จ่ายในการบริหารงานจำนวนมากเงินได้ที่ได้รับเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมิน

ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/5678 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2543

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)