Skip to Content

เงินได้จากการรับจ้างทำงานให้ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย


ข้อเท็จจริง

1. กรณีการสมัครเป็นสมาชิกของบริษัทขายตรงและสมาชิกได้รับส่วนลดตามเป้าที่ให้ใน

ภายหลังหรือรายการส่งเสริมการขาย สมาคมฯ ขอให้กรมสรรพากรให้จัดเก็บภาษีเช่นเดียวกับการขาย

สินค้าโดยทั่วๆไป โดยให้มีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง

สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษี เงินได้ ณ ที่จ่าย

ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.101/2544 ฯ

ลงวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2544 และให้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายเฉพาะส่วนที่มีจำนวนตั้งแต่หนึ่งพันบาท

ขึ้นไป

2. สมาคมฯ ขอให้ทบทวนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรที่ 29/ 2538 เรื่อง

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เงินได้ที่เป็นส่วนลด และส่วนลดพิเศษที่บุคคลผู้รับทำงานให้ได้รับจากระบบขาย

ตรง ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 โดยสมาคมฯ ได้ให้เหตุผลว่าข้อเท็จจริงตามคำวินิจฉัยดังกล่าว

คลาดเคลื่อน เพราะ

2.1 สมาชิกไม่ได้รับส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 25 ของยอดขายปลีก แต่หากเมื่อสมาชิกซื้อ

สินค้าจากบริษัทขายตรง สมาชิกจะซื้อสินค้าได้ในราคาขายส่งซึ่งเป็นราคาที่ซื้อขายจริงตามที่ระบุไว้ใน

ใบรับและใบกำกับภาษี และมีบางบริษัทเท่านั้นจะแสดงราคาขายปลีกหักด้วยส่วนลดและระบุราคาสุทธิเป็น

ราคาขายส่ง

2.2 กรณีสมาชิกซื้อสินค้าไปใช้ส่วนตัวซึ่งจะได้รับส่วนลดตามเป้า โดยอาจเป็นส่วนลดทันที

หรือลดให้ภายหลัง ถือเป็นส่วนลดการค้าตามปกติเช่นธุรกิจโดยทั่วๆไป สมาคมฯ เห็นว่า ส่วนลดดังกล่าว

เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร

3. เพื่อบรรเทาภาระของสมาชิกบริษัทขายตรงในการจัดเก็บหนังสือรับรองการ หักภาษี ณ

ที่จ่ายจำนวนมากและเพื่อลดภาระความยุ่งยากของบริษัทขายตรงในการหักภาษีและออก

หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย สมาคมฯ จึงขอให้กรมสรรพากรอนุมัติการออกหนังสือ รับรองการหัก

ภาษี ณ ที่จ่าย ครึ่งปีหนึ่งใบ โดยให้ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายภายใน วันที่ 15 สิงหาคม

ของปีและวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ของปีถัดไป และขออนุมัติไม่ต้องลงลายมือชื่อ ในหนังสือรับรองการหักภาษี

ณ ที่จ่ายที่บริษัทขายตรงได้ออกให้กับสมาชิก


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 40(2), มาตรา 50(1), มาตรา 50 ทวิ (2), คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ฯ, คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.101/2544 ฯ

แนววินิจฉัย

1. ตามข้อ 1 และข้อ 2 กรณีบุคคลซึ่งเป็นสมาชิกของบริษัทขายตรงได้รับ ผลประโยชน์

จากบริษัทขายตรง ไม่ว่าจะเป็น ส่วนแบ่งกำไร ส่วนลด และส่วนลดพิเศษ เข้าลักษณะเป็นเงินได้

เนื่องจากการรับทำงานให้ตามมาตรา 40(2) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้จ่ายเงินได้ดังกล่าวมีหน้าที่ต้องหัก

ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50(1) แห่งประมวลรัษฎากร กรณีจึงไม่อยู่ในบังคับต้องหักภาษีเงินได้

ณ ที่จ่ายตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้ พึงประเมินตามมาตรา 40

แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไข

เพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.101/2544 ฯ ลงวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2544

2. ตามข้อ 3 การออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายที่บริษัทขายตรงได้ หักไว้แล้วใน

ปีภาษีให้แก่สมาชิกของบริษัทขายตรง บริษัทขายตรงมีสิทธิจะออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายได้

ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ของปีถัดจากปีภาษี หรือภายในหนึ่งเดือนนับแต่ วันที่สมาชิกของบริษัทขายตรง

ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายออกจากงานในระหว่างปีภาษี ทั้งนี้ ตามมาตรา 50 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร

โดยหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายบริษัทขายตรงจะใช้พิมพ์ลายมือชื่อโดยไม่ลงลายมือชื่อเลยไม่ได้

ดังนั้น บริษัทขายตรงจึงไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายทุกครั้งที่มีการหักภาษีแต่ประการใด

3. กรณีที่สมาคมฯ แจ้งว่า ผู้จำหน่ายซึ่งเป็นสมาชิกของบริษัทขายตรงได้นำสินค้าไปใช้เอง

โดยมิใช่เพื่อขายต่อ ขอให้สมาคมฯ รวบรวมระเบียบหรือข้อบังคับของบริษัทสมาชิกทุกบริษัทส่งให้

กรมสรรพากรเพื่อพิจารณาในรายละเอียดต่อไปด้วย




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/10876 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2544

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)