เกณฑ์การรับรู้ ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อก่อสร้างอาคารโรงงานและซื้อเครื่องจักร
เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อก่อสร้างอาคารโรงงานและซื้อเครื่องจักรข้อเท็จจริงในปี 2540 บริษัทฯ ได้เริ่มโครงการขยายกำลังการผลิตด้วยการก่อสร้างโรงงาน ซื้อ เครื่องจักรจากต่างประเทศ และว่าจ้างบริษัทต่างประเทศแนะนำการติดตั้งเครื่องจักร แต่เนื่องจากใน เดือนกรกฎาคม 2540 ประเทศไทยมีการปรับปรุงระบบอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจของ ประเทศตกต่ำ และบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทำให้ต้องชะลอโครงการก่อสร้างไว้ ชั่วคราว บริษัทฯ มีความเข้าใจว่า ดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับค่าอาคารโรงงานที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและค่า เครื่องจักรที่ยังรอการติดตั้งที่บริษัทฯ ต้องจ่ายในช่วงเวลาหยุดโครงการขยายกำลังการผลิต บริษัทฯ มีสิทธินำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ ทั้งนี้ ตามมาตรฐาน การบัญชี ฉบับที่ 15 ของสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย เรื่อง การปฏิบัติในการ ตั้งต้นทุนการกู้ยืมเป็นราคาทุนของทรัพย์สิน และต่อเมื่อโครงการขยายกำลังการผลิตได้ดำเนินต่อไป ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายนับตั้งแต่ช่วงเวลาที่โครงการขยายได้ดำเนินต่อไปจนถึงวันที่โรงงานเสร็จพร้อมทำ การผลิตสินค้าได้ให้ถือเป็นต้นทุนของทรัพย์สิน ความเห็นของบริษัทฯ ดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 65 ทวิ (2), มาตรา 65 ทวิ (5), พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527แนววินิจฉัยกรณีตามข้อเท็จจริงข้างต้นอาจแยกพิจารณาได้ ดังนี้ 1. กรณีค่าดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการก่อสร้างอาคารโรงงานที่บริษัทฯ ได้จ่ายไปในระหว่าง ชะลอโครงการก่อสร้างหรือในระหว่างการก่อสร้างอาคารโรงงานจนถึงการก่อสร้างแล้วเสร็จหรือ อาคารใช้การได้ตามสภาพให้ถือเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน ตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่ง ประมวลรัษฎากร จะนำไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิไม่ได้ แต่มีสิทธินำไปรวมคำนวณเป็น มูลค่าอาคารโรงงาน เพื่อหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา ตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่ง ประมวลรัษฎากร ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527 ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องจ่ายไปหลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จหรืออาคารนั้นใช้การได้ตาม สภาพ ให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิของแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีที่จ่ายได้ 2. กรณีค่าดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อเครื่องจักรที่บริษัทฯ ได้จ่ายไปในระหว่างรอการติดตั้ง เครื่องจักรในช่วงหยุดโครงการหรือที่ได้จ่ายไปในระหว่างที่ได้ซื้อเครื่องจักรจนกระทั่งเครื่องจักรนั้นได้ รับการติดตั้งจนสามารถใช้การได้ตามสภาพ ให้ถือเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน ตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร จะนำไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิไม่ได้ แต่มีสิทธินำ ดอกเบี้ยนั้นไปรวมคำนวณเป็นมูลค่าของเครื่องจักรเพื่อหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา ตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ.2527 ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องจ่ายไปหลังจากเครื่องจักรใช้การได้ตามสภาพ ให้ถือเป็นรายจ่าย ในการคำนวณกำไรสุทธิของแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีที่จ่ายได้ ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/00218 ลงวันที่ 12 มกราคม 2542 |