ออกหมายเรียก ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการออกหมายเรียก

เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการออกหมายเรียก

ข้อเท็จจริง

นางสาว ช. ได้รับหมายเรียกตามใบตอบรับลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2551 นางสาว ช. ได้มอบอำนาจให้นาย ว.มาพบ เจ้าพนักงานในวันที่ 14 กรกฎาคม 2551 แต่มิได้ยกประเด็นเรื่องการส่งหมายเรียกตามกำหนดระยะเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหมายเรียก และให้ความร่วมมือในการตรวจสอบไต่สวนด้วยดีพร้อมทั้งส่งมอบบัญชีเอกสารหลักฐาน เจ้าพนักงานฯ ได้แจ้งให้นางสาว ช. มาเพื่อรับทราบผลการตรวจสอบ แต่นางสาว ช. ไม่มาพบตามกำหนดนัด เจ้าพนักงานฯ จึงได้ประเมินภาษี ตามการตรวจสอบ ดังนี้

1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2550 ตามหนังสือแจ้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.12 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2551 รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 94,208 บาท

2. ภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับเดือนภาษีกุมภาพันธ์ 2550 เดือนภาษีเมษายน 2550 และเดือนภาษีธันวาคม 2550 ตามหนังสือ แจ้งภาษีมูลค่าเพิ่ม ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2551 เป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 49,183 บาท

3. นางสาว ช. ได้ยื่นคำอุทธรณ์คัดค้านการประเมินดังกล่าวในวันที่ 16 ธันวาคม 2251 ซึ่งเป็นการอุทธรณ์ภายในกำหนด เวลาตามมาตรา 30 แห่งประมวลรัษฎากร จึงรับคำอุทธรณ์ไว้พิจารณา โดยผู้อุทธรณ์มิได้ยกประเด็นเรื่องการกำหนดระยะเวลา ในการส่งหมายเรียกไม่น้อยกว่า 7 วันนับแต่วันที่ได้รับหมายเรียกขึ้นกล่าวอ้างต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

แนววินิจฉัย

กรณีเจ้าพนักงานประเมินได้ออกหมายเรียกตามมาตรา 19 และมาตรา 88/4 แห่งประมวลรัษฎากร เพื่อทำการตรวจสอบ ไต่สวน โดยให้เวลาล่วงหน้าน้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันส่งหมายหรือวันได้รับหมายเรียก จึงมีผลทำให้การประเมินภาษีอากรตาม หมายเรียกดังกล่าวไม่ถูกต้องตามประมวลรัษฎากร ซึ่งจะต้องดำเนินการชี้แจงเหตุผลต่อผู้มีอำนาจอนุมัติออกหมายเรียกเพื่อขอ อนุมัติยกเลิกหมายเรียกฉบับเดิมและออกหมายเรียกฉบับที่ถูกต้องตามข้อ 10.4 ของระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการตรวจสอบ ภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2550

ที่มา: