Skip to Content

ราคาตลาด ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระหว่างบริษัทในเครือ

เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระหว่างบริษัทในเครือ


ข้อเท็จจริง

บริษัท อ. จำกัด เป็นนิติบุคคลต่างด้าวที่จดทะเบียนในประเทศไทยโดยมีบริษัท ม. จำกัด

ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ถือหุ้นโดยมีทุนจดทะเบียน 6,000 ล้านบาท และมีวัตถุประสงค์ตามหนังสือบริคณห์สนธิ

ให้การสนับสนุนธุรกิจทางการตลาด ตลอดจนเทคโนโลยีในการผลิตและการจัดการให้แก่บริษัทในเครือ

ของบริษัทมิตซูบิชิฯ ทั้งหมดในประเทศไทย เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างเข้มแข็งและมี

ประสิทธิภาพในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2541 บริษัท ต. จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลไทย และเป็น

บริษัทในเครือของบริษัทมิตซูบิชิฯ เช่นเดียวกัน ซึ่งประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรม

อื่น ๆ ได้ประสบปัญหาสภาวะเศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรงและส่งผลกระทบโดยตรงต่อการบริโภคสินค้า

ประเภทรถยนต์ บริษัท ต. จึงประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก จึงจำเป็นต้องขอกู้ยืมเงินจากบริษัท

อ. จำกัด ในวงเงินกู้รวมทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาทอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี (ซึ่งบริษัทฯ ได้จ่าย

ดอกเบี้ยกู้ยืมประมาณร้อยละ 0.06 - 0.08 ต่อปี กรณีกู้ยืมเป็นเงินเยน)

บริษัทฯ จึงขอหารือดังนี้

1. บริษัทฯ สามารถนำรายรับที่ได้จากดอกเบี้ยเงินกู้ยืมดังกล่าว ซึ่งบริษัทฯ ยังไม่ได้รับ

ดอกเบี้ยเงินกู้ (แต่ได้ตั้งบัญชีค้างรับไว้ในปี 2541) มาถือเป็นรายได้ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสีย

ภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2541 ได้นับตั้งแต่วันที่ให้กู้ บริษัทฯ เข้าใจเช่นนี้ถูกต้อง

หรือไม่

2. บริษัทฯ สามารถนำส่งภาษีธุรกิจเฉพาะจากรายได้ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมดังกล่าวเมื่อได้รับ

ชำระดอกเบี้ยตามเกณฑ์เงินสด ถูกต้องหรือไม่

3. บริษัทฯ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ม. จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ได้คิดอัตราดอกเบี้ย

เงินกู้ยืมแก่บริษัท ต. จำกัด ในอัตราร้อยละ 3 ถือเป็นเหตุผลอันสมควรตามมาตรา 65 ทวิ แห่ง

ประมวลรัษฎากร ถูกต้องหรือไม่


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 65, มาตรา 65 ทวิ (4), มาตรา 91/8

แนววินิจฉัย

1. กรณีตามข้อ 1 บริษัทฯ จะต้องนำรายได้จากดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่เกิดขึ้นใน

รอบระยะเวลาบัญชีปี 2541 แม้ว่าจะยังไม่ได้รับในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2541 มารวมคำนวณเป็น

รายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2541 ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร

2. กรณีตามข้อ 2 บริษัทฯ จะนำรายรับจากดอกเบี้ยเงินกู้ยืมมาเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตาม

เกณฑ์เงินสดได้เมื่อบริษัทฯ ได้เลือกเกณฑ์เงินสดในการคำนวณรายรับแต่ต้องปฏิบัติตลอดไป เว้นแต่จะได้

รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรให้เปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ตามนัยมาตรา 91/8 วรรคสอง แห่ง

ประมวลรัษฎากร

3. กรณีตามข้อ 3 บริษัทฯ ให้กู้ยืมเงินแก่บริษัท ต. จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท

ม. จำกัด เช่นเดียวกันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาทางการเงินโดยคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ในขณะที่บริษัทฯ

ได้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืมประมาณร้อยละ 0.06 - 0.08 ต่อปี กรณีกู้เป็นเงินเยน ถือว่า

มีเหตุอันสมควร ตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/407 ลงวันที่ 21 มกราคม 2543

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)