ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการประกอบกิจการโรงเรียนเอกชน
เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการประกอบกิจการโรงเรียนเอกชนข้อเท็จจริงบริษัทฯ ประกอบกิจการโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน บริษัทฯ มีรายได้ จากการประกอบกิจการดังนี้ 1. รายได้จากเงินบริจาคที่ได้รับจากบุคคลธรรมดา องค์กร หรือบริษัทเอกชนต่าง ๆ ซึ่งโรงเรียน จะนำเงินไปใช้ในกิจการที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่นักเรียน 2. ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารที่โรงเรียนได้รับจากธนาคารพาณิชย์ หรือสถาบันการเงิน 3. รายได้จากการสอนผ่าน VDO Conference ให้แก่นักเรียนของโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล 4. รายได้จากการให้บุคคลภายนอกเช่าพื้นที่ในโรงเรียนเพื่อขายอาหาร เปิดร้าน ถ่ายเอกสาร และวางตู้ ATM 5. รายได้จากการขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ให้แก่นักเรียนของโรงเรียน 6. รายได้จากการขายเศษซากวัสดุเหลือใช้ของโรงเรียน บริษัทฯ ขอทราบว่า รายได้ของบริษัทฯ ข้างต้น จะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม และ ภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วย การยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 284) พ.ศ. 2538 หรือไม่ อย่างไร และในกรณีที่บริษัทฯ มีรายได้ทั้งที่ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และที่ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทฯ จะต้องคำนวณ กำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลอย่างไร กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 3 มาตรา 77/1(8)(10) และมาตรา 81(1) แห่งประมวลรัษฎากรแนววินิจฉัย1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิ ที่ได้จากการประกอบกิจการโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน จะต้องมิได้ประกอบกิจการ อื่นนอกจากกิจการโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ตามมาตรา 3 วรรคสองแห่ง พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 284) พ.ศ. 2538 ดังนั้น เมื่อบริษัทฯ มีเงินได้จากการประกอบกิจการให้เช่าพื้นที่ในโรงเรียนเพื่อขายอาหาร เปิด ร้านถ่ายเอกสาร และวางตู้ ATM ด้วย จึงไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 3 แห่ง พระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว บริษัทฯ จึงต้องนำเงินได้จากการประกอบการของบริษัทฯ ทุกประเภท มารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล 2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม 2.1 กรณีที่บริษัทฯ มีรายได้จากเงินบริจาคที่ได้รับจากบุคคลธรรมดา องค์กร หรือบริษัทเอกชน ต่าง ๆ หากบริษัทฯ ไม่มีข้อผูกพันที่ต้องทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้กับผู้บริจาค เงินบริจาคดังกล่าวไม่ใช่ ค่าตอบแทนอันเกิดจากการขายสินค้าหรือให้บริการ และไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 2.2 กรณีที่บริษัทฯ มีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร ดอกเบี้ยดังกล่าว ไม่อยู่ในบังคับต้อง เสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/1(10)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร 2.3 กรณีที่บริษัทฯ มีรายได้จากการสอนผ่าน VDO Conference ให้แก่นักเรียนของโรงเรียน ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล เข้าลักษณะเป็นการให้บริการการศึกษาของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วย โรงเรียนเอกชน รายได้ที่ได้จากการประกอบกิจการ ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(1)(ช) แห่งประมวลรัษฎากร 2.4 กรณีที่บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บุคคลภายนอกเช่าพื้นที่ในโรงเรียนเพื่อขายอาหาร เปิดร้านถ่ายเอกสาร และวางตู้ ATM หากบริษัทฯ ได้ส่งมอบการครอบครองพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ เข้า ลักษณะเป็นการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(1)(ต) แห่งประมวล รัษฎากร 2.5 กรณีที่บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา หากไม่ใช่เป็นการ จำหน่ายหนังสือหรือตำราเรียน เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้า ซึ่งอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/1(8) แห่งประมวลรัษฎากร 2.6 กรณีที่บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเศษซากวัสดุเหลือใช้ของโรงเรียน เข้าลักษณะเป็น การขายสินค้า ซึ่งอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/1 (8) แห่งประมวลรัษฎากร ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0702/1472 ลงวันที่ 10 เมษายน 2551 |