Skip to Content

มูลนิธิ สมาคม ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีดอกเบี้ยเงินฝากของสมาคม

เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีดอกเบี้ยเงินฝากของสมาคม


ข้อเท็จจริง

สมาคมฯ ได้รับดอกเบี้ยตามบัญชีเงินฝากเงินสงเคราะห์ล่วงหน้า ซึ่งสมาคมฯ มิได้นำดอกเบี้ย

ดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีตามมาตรา 68 และมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร โดยสมาคมฯ

แจ้งว่าเงินสงเคราะห์ล่วงหน้าที่นำเข้าบัญชีเงินฝากของสมาคมฯ ไม่ใช่เงินของสมาคมฯ แต่เป็นเงินของ

สมาชิก และดอกเบี้ยที่เกิดจากบัญชีเงินฝากดังกล่าวถือว่าได้รับบริจาคจากสมาชิกหรือให้โดยเสน่หาแก่

สมาคมฯ สมาคมฯ จึงไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีตามมาตรา 65 ทวิ (13) แห่ง

ประมวลรัษฎากร

กรมประชาสงเคราะห์เห็นว่า "เงินสงเคราะห์ล่วงหน้า" หมายถึง เงินที่สมาชิก มอบให้

สมาคมฯ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์ให้แก่ผู้รับเงินสงเคราะห์ของ

สมาชิกที่ถึงแก่ความตาย ซึ่งสมาคมฯ สามารถเรียกเก็บเงินสงเคราะห์ล่วงหน้านี้ได้ตามพระราชบัญญัติ

การฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2517 และสมาคมฯ จะนำเงินเหล่านั้นเข้าบัญชีเงินฝากของสมาคมฯ

ในระหว่างรอจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์ จึงหารือว่าดอกเบี้ยเงินฝากจากเงินสงเคราะห์ล่วงหน้าที่อยู่ใน

ความยึดถือและครอบครองของสมาคมฯ ดังกล่าวเป็นเงินได้พึงประเมินอันจะต้องเสียภาษีเงินได้หรือไม่


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 65 ทวิ (13)

แนววินิจฉัย

กรณีที่สมาคมฯ นำรายได้เงินสงเคราะห์ล่วงหน้าที่ได้รับจากสมาชิกเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร

และสมาคมฯ ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากจากรายได้ดังกล่าวดอกเบี้ยเงินฝากนั้นถือเป็นรายได้ของสมาคมฯ ที่

ประกอบกิจการอันมิใช่รายได้ตามมาตรา 65 ทวิ (13) แห่งประมวลรัษฎากร สมาคมฯ จึงต้องเสีย

ภาษีเงินได้นิติบุคคลจากดอกเบี้ยเงินฝากในอัตราร้อยละ 10 ของเงินได้ ตามข้อ 2 (จ) แห่ง

บัญชีอัตราภาษีเงินได้ท้ายหมวด 3 ภาษีเงินได้




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/3278 ลงวันที่ 23 เมษายน 2545

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)