มูลนิธิ สมาคม ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการขายทรัพย์สินของมูลนิธิ
เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการขายทรัพย์สินของมูลนิธิข้อเท็จจริง1.มูลนิธิฯ ได้รับประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล ของประกาศกระทรวงการคลัง ว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 2) เรื่อง กำหนดองค์การ สถานสาธารณกุศล สถานพยาบาล และสถานศึกษา ตามมาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา 3 (4) (ข) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 254) พ.ศ. 2534 ลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2535 2.มูลนิธิฯ ได้ดำเนินกิจกรรมโดยให้การสนับสนุนส่งเสริม ช่วยเหลือสังคม ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนโครงการต่างๆ ที่ทำคุณประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศชาติ และที่ผ่านมามูลนิธิฯ ได้ดำเนิน "โครงการสถานีวิทยุจราจรเพื่อสังคม" มีหน้าที่เป็นสื่อกลางในการประสานงานด้านการจราจร และสาธารณประโยชน์แก่สังคมโดยรวม ต่อมาโครงการได้เปลี่ยนแปลงสภาพเป็นนิติบุคคลภายใต้ชื่อบริษัท สถานีวิทยุจราจรเพื่อสังคม จำกัด (บริษัทฯ) ดำเนินกิจการโดยยึดหลัก Social Emterprise มิได้แสวงหากำไรจากการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งยังคงสร้างสรรค์ประโยชน์แก่สังคม มูลนิธิฯ จึงได้ขายทรัพย์ให้แก่บริษัทฯ เพื่อใช้ดำเนินกิจการได้อย่างต่อเนื่อง โดยคิดมูลค่าคงเหลือหลังหักค่าเสื่อมราคา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 มูลนิธิฯ จึงขอทราบว่า 1.รายได้จากการขายทรัพย์สินดังกล่าว ต้องนำมาคำนวณเพื่อยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้มูลนิธิหรือสมาคม (ภ.ง.ด. 55) หรือไม่ อย่างไร 2.มูลนิธิฯ ได้รับประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล ยังต้องมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้มูลนิธิหรือสมาคม (ภ.ง.ด. 55) เป็นประจำทุกปีหรือไม่ อย่างไร กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 39 มาตรา 47(7)(8) และมาตรา 66 แห่งประมวลรัษฎากรแนววินิจฉัยเนื่องจากมูลนิธิฯ ได้รับประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล ของประกาศกระทรวงการคลัง ว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 2)ฯ ลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2535 ไม่เข้าลักษณะเป็น "บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล" ตามบทนิยามในมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น จึงพิจารณาได้ดังนี้ 1.กรณีตาม 1. หากรายได้จากการขายทรัพย์สินดังกล่าวไม่ใช่เป็นการได้มาจากการซื้อขายหรือการให้บริการโดยมีค่าตอบแทนเป็นปกติธุระ และการซื้อขายหรือการให้บริการนั้นเกี่ยวข้องกับการศาสนา การศึกษา การสถานพยาบาล หรือการสังคมสงเคราะห์ และไม่นำรายได้ดังกล่าวไปจ่ายในทางอื่น และต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ จึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลแต่อย่างใด 2.กรณีตาม 2. เมื่อมูลนิธิฯ ไม่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามบทนิยาม "บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล" ตามมาตรา 39 ประกอบกับมาตรา 66 แห่งประมวลรัษฎากร มูลนิธิฯ จึงไม่มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้มูลนิธิหรือสมาคม (ภ.ง.ด. 55) แต่อย่างใด ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0702/9266 ลงวันที่ 04 พฤศจิกายน 2559 |