Skip to Content

ประเภทเงินได้ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินได้จากการประกอบวิชาชีพอิสระ การประกอบโรคศิลป

เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินได้จากการประกอบวิชาชีพอิสระ การประกอบโรคศิลป


ข้อเท็จจริง

ข้าราชการสาย ก. (อาจารย์) ของคณะทันตแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยของรัฐ และผู้ที่มิใช่

อาจารย์ของคณะทันตแพทยศาสตร์ฯ ได้ให้การรักษาพยาบาลทางทันตกรรม ประกอบโรคศิลปทาง

ทันตกรรม นอกเวลาราชการ ณ คลินิกทันตกรรมพิเศษคณะทันตแพทยศาสตร์ โดยทำข้อตกลงกับคณะฯ

และมีข้อตกลงแบ่งเงินที่ได้รับจากผู้ป่วยให้คณะฯ กรณีถือว่าทันตแพทย์กลุ่มนี้ได้รับเงินได้พึงประเมินตาม

มาตรา 40 (6) แห่งประมวลรัษฎากร ใช่หรือไม่


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 40

แนววินิจฉัย

1. กรณีทันตแพทย์ทำงานประจำเป็นอาจารย์ของคณะทันตแพทยศาสตร์ฯ ได้รับเงินเดือน

ประจำเมื่อมาปฏิบัติงานในคลินิกทันตกรรมพิเศษนอกเวลาราชการปกติของคณะทันตแพทยศาสตร์อีก จึง

เป็นการปฏิบัติงานของลูกจ้างกับนายจ้างคนเดิม โดยมีหลักฐานใบเสร็จรับเงิน ซึ่งออกในนามของ

ราชการ มหาวิทยาลัยฯ ที่ทำการคณะทันตแพทยศาสตร์เป็นผู้เรียกเก็บเงินจากคนไข้แล้วจ่ายค่าตอบแทน

ให้ทันตแพทย์เป็นค่าธรรมเนียมพิเศษนอกเวลาราชการตามข้อตกลงในระเบียบของมหาวิทยาลัยฯ ว่าด้วย

ค่าตอบแทนในการให้บริการนอกเวลาราชการปกติที่คลินิกทันตกรรมพิเศษ คณะทันตแพทยศาสตร์ พ.ศ.

2539 เงินค่าตอบแทนดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) แห่ง

ประมวลรัษฎากร

2. กรณีทันตแพทย์ที่ปฏิบัติงานในคลินิกทันตกรรมพิเศษนอกเวลาราชการปกติ ของคณะทันต

แพทยศาสตร์ฯ มิใช่อาจารย์ของคณะทันตแพทยศาสตร์ฯ มาทำงานเป็นครั้งคราว ตามวันและเวลาที่

กำหนดตามข้อตกลง โดยมีหลักฐานใบเสร็จรับเงินซึ่งออกในนามของในราชการ มหาวิทยาลัยฯ ที่ทำการ

คณะทันตแพทยศาสตร์ เป็นผู้เรียกเก็บเงินจากคนไข้แล้วจ่ายค่าตอบแทนให้ทันตแพทย์เป็นค่าธรรมเนียม

พิเศษนอกเวลาราชการตามข้อตกลงในระเบียบของมหาวิทยาลัยฯ ว่าด้วยค่าตอบแทนในการให้บริการ

นอกเวลาราชการปกติที่คลินิกทันตกรรมพิเศษ คณะทันตแพทยศาสตร์ พ.ศ. 2539 จึงไม่มีความสัมพันธ์ใน

ลักษณะของนายจ้างกับลูกจ้าง เข้าลักษณะเป็นเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใด ๆ ที่ได้เนื่องจากหน้าที่

หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือจากการรับทำงานให้ ตามมาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร

3. สำหรับกรณีที่ทันตแพทย์ตาม 1 และ 2 ได้ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้

ประจำปีไว้ไม่ถูกต้อง ให้ยื่นแบบแสดงรายการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อชำระภาษีให้ถูกต้องและต้องเสีย

เงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องเสียหรือนำส่งตามมาตรา 2

7 แห่งประมวลรัษฎากร และไม่ต้องเสียเบี้ยปรับและค่าปรับอาญาแต่อย่างใด




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/05392 ลงวันที่ 08 มิถุนายน 2542

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)