ดอกเบี้ย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ของผลตอบแทนให้แก่ผู้ฝากเงิน
เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ของผลตอบแทนให้แก่ผู้ฝากเงินข้อเท็จจริงเนื่องจากธนาคารฯ ได้เปิดสาขาเพื่อให้บริการทางการเงินตามหลักศาสนาอิสลาม โดยการ ดำเนินการของธนาคารฯ จะเปิดโอกาสให้ผู้ฝากเงินที่ต้องการผลตอบแทนในเงินฝาก ต้องให้ความ ยินยอมต่อธนาคารฯ ในการที่จะนำเงินฝากของตนไปลงทุน และเมื่อการลงทุนดังกล่าวมีผลกำไร ธนาคารฯ จะแบ่งผลกำไรให้กับผู้ฝากเงินรายนั้นในรูปเงินปันผล แต่หากการลงทุนนั้นขาดทุน ผู้ฝากเงิน ต้องตกลงยินยอมให้ธนาคารฯ หักเงินฝากเฉลี่ยตามส่วนที่ขาดทุนนั้น (คำขอเปิดบัญชีหน้าที่ 10 วรรคท้าย) สำหรับผู้ฝากเงินที่ไม่ตกลงยินยอมให้ธนาคารฯ นำเงินฝากไปลงทุน ผู้ฝากเงินรายนั้นจะไม่ได้รับผล ตอบแทนในเงินฝากและต้องเสียค่าธรรมเนียมในการรักษาทรัพย์ให้กับธนาคารฯ ตามที่ธนาคารฯ กำหนด (คำขอเปิดบัญชีหน้าที่ 2 ข้อ 4) ธนาคารฯ หารือว่า ธนาคารฯ จะต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย สำหรับ ผลตอบแทนที่ธนาคารฯ จะจ่ายให้ผู้ฝากเงินที่ตกลงยินยอมให้ธนาคารฯ นำเงินฝากไปลงทุนในอัตรา เท่าใด ทั้งกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 40(4)(ก), มาตรา 50(2), คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528ฯแนววินิจฉัย1. ผลตอบแทนที่ผู้ฝากเงินได้จากการนำเงินมาฝากกับธนาคารฯ เข้าลักษณะเป็น เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร 2. ดังนั้น เมื่อธนาคารฯ จ่ายเงินได้ให้กับผู้ฝากเงินดังกล่าว ธนาคารฯ มีหน้าที่ในการหัก ภาษี ณ ที่จ่าย ดังนี้ 2.1 กรณีผู้ฝากเงินเป็นผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ธนาคารฯ มีหน้าที่ต้อง หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 15.0 ของเงินที่จ่าย ตามมาตรา 50(2) แห่ง ประมวลรัษฎากร 2.2 กรณีผู้ฝากเงินเป็นผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล แยกพิจารณาได้ ดังนี้ (ก) กรณีผู้ฝากเงินเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการใน ประเทศไทยนอกจากที่ระบุใน (ข) แต่ไม่รวมถึงธนาคารตามกฎหมายว่าด้วยธนาคารพาณิชย์ และบริษัท ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ และบริษัท บริหารสินทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารฯ มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย โดยคำนวณ หักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 (ข) กรณีผู้ฝากเงินเป็นมูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้แต่ไม่รวมถึง มูลนิธิหรือสมาคมที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร ธนาคารฯ มี หน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 10.0 ตามข้อ 4 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0706/10955 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2546 |