Skip to Content

จ่ายเงินได้ไปต่างประเทศ ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการชำระค่าบริการวงจรความเร็วสูงระหว่างประเทศ

เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการชำระค่าบริการวงจรความเร็วสูงระหว่างประเทศ


ข้อเท็จจริง

1. บริษัทฯ เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ประกอบธุรกิจให้บริการอินเตอร์เน็ตแก่

ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยโดยได้รับอนุญาตจากการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.)

ตามสัญญาดำเนินการให้บริการอินเตอร์เน็ตระหว่างบริษัทฯ กับ กสท.กำหนดให้การ

ให้บริการดังกล่าว บริษัทฯ จะต้องเช่าข่ายบริการโทรคมนาคมของ กสท. หรือของหน่วยงานอื่นที่ กสท.

อนุญาตให้เช่าเท่านั้น ทั้งนี้ ในการให้บริการอินเตอร์เน็ตนั้น เป็นการให้บริการเชื่อมโยงระบบ

คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในเชิงพาณิชย์เพื่อการติดต่อและใช้ระบบสารสนเทศ

ร่วมกันเฉพาะบริการการรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) การอ่านและบันทึกลงแผงข่าวและการ

ประยุกต์ใช้งานบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต อาทิเช่น การเข้าถึงศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ห่างไกล การโอนแฟ้ม

ข้อมูลจากเครื่องอื่น ๆ บนเครือข่าย การท่องไปในเครือข่ายด้วยโปรแกรมสืบค้นข้อมูลประเภทต่าง ๆ

รวมถึงการโต้ตอบ (Interactive) กับผู้ใช้เครือข่ายรายอื่น ๆ ที่กระทำลักษณะของข้อความเท่านั้น

2. ในการเช่าข่ายบริการโทรคมนาคมตามข้อ 1. บริษัทฯ ในฐานะผู้เช่าได้ทำสัญญาเช่าใช้

บริการวงจรระหว่างประเทศความเร็วสูงกับ กสท. ผู้ให้เช่า จำนวน 2 ฉบับ เพื่อใช้ในการให้บริการ

อินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ โดยใช้ติดต่อระหว่างกรุงเทพฯ ประเทศไทยกับ

สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการเช่าใช้วงจรระหว่างประเทศความเร็วสูงด้วยเครื่องอุปกรณ์สื่อสาร โดย

กสท.จะเป็นผู้จัดหาคู่สายเคเบิลหรือวงจรเชื่อมโยงให้แก่บริษัทฯ เพื่อใช้ระหว่างสำนักงานของบริษัทฯ

กับสำนักงานปฏิบัติการกลางของ กสท. ทั้งนี้ บริษัทฯ ตกลงจ่ายเงินค่าเช่าใช้บริการตามสัญญาให้แก่

กสท. เป็นรายเดือนตลอดอายุของสัญญา

3. ในการดำเนินการให้บริการอินเตอร์เน็ตของบริษัทฯ เพื่อให้ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตใน

ประเทศไทยสามารถติดต่อเชื่อมโยงและเข้าถึงศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ห่างไกล หรือสามารถท่องไปใน เครือ

ข่ายอินเตอร์เน็ตอื่น ๆ ทั่วโลกโดยเฉพาะเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในประเทศสหรัฐอเมริกาได้นั้น บริษัทฯ

ได้ทำสัญญากับบริษัทให้บริการอินเตอร์เน็ต จำนวน 2 ราย คือ บริษัท A และกับบริษัท B ซึ่งเป็น

นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกาและไม่มีสถานประกอบการ หรือตัวแทนใน

ประเทศไทย โดยบริษัทฯ ในฐานะผู้รับบริการได้ลงนามสัญญาดังกล่าวในประเทศไทยและส่งไปให้ A

และ B ลงนามที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วจึงส่งสัญญากลับมาที่บริษัทฯ

4. สัญญาระหว่างบริษัทฯ กับ A และ B ตามข้อ 3. มีสาระสำคัญสรุปได้ว่าเป็นกรณีที่ A

และ B ตกลงหรืออนุญาตให้บริษัทฯ สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของตนซึ่งเป็นผู้

ให้บริการอินเตอร์เน็ตในสหรัฐอเมริกาได้ ซึ่งจะเป็นการรับส่งหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลข้อสนเทศต่าง ๆ ใน

ลักษณะสัญญาณอินเตอร์เน็ตผ่านทางดาวเทียมหรือเคเบิลใยแก้วระหว่างประเทศเชื่อมโยงกับเครือข่าย

อินเตอร์เน็ตของ A หรือ B ในสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ในการรับส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตระหว่างบริษัทฯ กับ

A และ B มายังหรือออกจากประเทศไทยจะต้องผ่านศูนย์การปฏิบัติงานของ กสท. โดยบริษัทฯ ตกลง

ชำระค่าตอบแทนการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตของตนกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของ A และ B ผู้

ให้บริการ (หรือที่เรียกว่า "ค่าวงจรความเร็วสูงระหว่างประเทศ") เป็นรายเดือน ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น

การชำระให้กับ A หรือ B ในสหรัฐอเมริกาโดยตรงหรือชำระผ่านทาง กสท. ก็ตาม

5. บริษัทฯ หารือว่า ค่าบริการวงจรความเร็วสูงระหว่างประเทศดังกล่าวถือเป็นค่าบริการ

ประเภทใดและบริษัทฯ ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายหรือไม่ ในอัตราเท่าใด ในกรณีชำระให้บริษัทผู้

ให้บริการในประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศสิงคโปร์ และประเทศญี่ปุ่น


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 40(8), มาตรา 70

แนววินิจฉัย

กรณีบริษัทฯ ชำระค่าวงจรความเร็วสูงระหว่างประเทศให้กับ A และ B ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ

ด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมในสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการขอเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบเครือ

ข่ายอินเตอร์เน็ตของผู้ให้บริการในสหรัฐฯ ซึ่งการเชื่อมต่อหรือการเข้าสู่เครือข่ายดังกล่าว ก็เพื่อเป็น

ทางผ่านให้มีการถ่ายทอดสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปมาระหว่างกันได้โดยลูกค้าของบริษัทฯ ในประเทศไทยก็

จะสามารถใช้อินเตอร์เน็ตท่องไปในเครือข่ายต่าง ๆ (เข้าไปในเว็บไซด์) ในต่างประเทศเพื่อค้นข้อมูล

ติดต่อสื่อสาร และใช้ระบบสารสนเทศอื่น ๆ รวมทั้งการรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) กับผู้ใช้

อินเตอร์เน็ตในเครือข่ายรายอื่นได้ ทั้งนี้ การที่บริษัทฯ จะสามารถเชื่อมต่อหรือเข้าสู่ระบบเครือข่าย

อินเตอร์เน็ตของผู้ให้บริการได้นั้น บริษัทฯ จะต้องรับผิดชอบจัดเตรียมวงจร เครื่องมือและอุปกรณ์สื่อสาร

อื่น ๆ ของตนในประเทศไทยตามแบบที่ผู้ให้บริการกำหนด รวมไปถึงการติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์

เหล่านั้นด้วยตนเองและหากมีอุปสรรคหรือข้อขัดข้องเกี่ยวกับระบบเครือข่ายหรือเครื่องมืออุปกรณ์สื่อสาร

ใด ๆ รวมทั้งปัญหาจากลูกค้าของบริษัทฯ ในประเทศไทยแล้ว บริษัทฯ ต้องรับผิดชอบและดำเนินการ

แก้ไขอุปสรรคข้อขัดข้องนั้นเอง A หรือ B มิได้อนุญาตให้บริษัทฯ ใช้หรือมีสิทธิในการใช้งานอันมีลิขสิทธิ์

หรือได้ล่วงรู้ถึงแบบแผน สูตร หรือกรรมวิธีลับใด ๆ อันเป็นข้อสนเทศเกี่ยวกับประสบการณ์ทาง

อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการเชื่อมต่อหรือเข้าสู่ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

ของตน แต่อย่างใด ดังนั้น ค่าตอบแทนสำหรับการเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบเครือข่ายหรือที่เรียกว่าค่าบริการ

วงจรความเร็วสูงระหว่างประเทศที่บริษัทฯ ชำระให้แก่ A และ B จึงมิใช่ค่าตอบแทนเพื่อการอนุญาตให้

ใช้อันมีลักษณะเป็น "ค่าสิทธิ" ตามมาตรา 40(3) แห่งประมวลรัษฎากร หากแต่เป็น "ค่าบริการ" ที่

เป็นเงินได้จากธุรกิจหรือการพาณิชย์ที่ผู้ให้บริการซึ่งประกอบกิจการด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมใน

ต่างประเทศเรียกเก็บอันเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น บริษัทฯ

ผู้จ่ายเงินได้จึงไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 15 ของเงินที่จ่ายตามมาตรา 70

แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด กรณีจึงไม่จำต้องพิจารณาว่าผู้รับเงินได้ดังกล่าวมีถิ่นที่อยู่ในประเทศที่

ได้ทำอนุสัญญาภาษีซ้อนไว้กับประเทศไทยหรือไม่อย่างไร




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/5016 ลงวันที่ 04 มิถุนายน 2545

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)