จ่ายเงินได้ไปต่างประเทศ ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายเงินผลต่างของอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย
เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายเงินผลต่างของอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยข้อเท็จจริงบริษัทฯ ได้ขอให้พิจารณาทบทวนหนังสือตอบข้อหารือกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำสัญญา แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและอัตราดอกเบี้ย โดยบริษัทฯ จ่ายในอัตราคงที่และบริษัท ก (ธนาคาร ผู้รับทำสัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย) จ่ายในอัตราลอยตัว ซึ่งกรมสรรพากรได้วินิจฉัยว่า เงินส่วนต่าง ของอัตราดอกเบี้ยที่บริษัทฯ จ่ายให้บริษัท ก ดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นเงินได้ที่มีลักษณะทำนองเดียวกับ ดอกเบี้ย ผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนอื่น ๆที่ได้จากการให้กู้ยืมเงินตามมาตรา 40(4)(ก) แห่ง ประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15 ตามมาตรา 70 แห่ง ประมวลรัษฎากร โดยมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาดังนี้ 1. บริษัทฯ ได้ทำสัญญากู้ร่วม (Syndicated Loan) จากธนาคารในประเทศ ต่อมา บริษัทฯ เห็นว่าการชำระดอกเบี้ยในอัตราลอยตัวดังกล่าวมีความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่ไม่คงที่ บริษัทฯ จึงได้ทำสัญญาประกัน(SWAP) อัตราดอกเบี้ยคงที่กับธนาคารอีกแห่งในต่างประเทศ คือ บริษัท ก ซึ่ง ไม่ใช่ธนาคารผู้ให้กู้ยืมเงินโดยบริษัทฯ ยังคงมีหน้าที่จ่ายดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารผู้ให้กู้ยืมเงินโดยตรงตาม อัตราดอกเบี้ยลอยตัวซึ่งกำหนดไว้ในสัญญาเงินกู้ยืมเงินนั้นทุกประการ ตลอดจนทำการหักภาษีเงินได้นำส่ง ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร 2. บริษัทฯ มิได้ทำสัญญากู้ยืมเงินใด ๆ กับบริษัท ก เพียงมีข้อตกลงร่วมกันในการกำหนด จำนวนเงินขึ้นมาเพื่อที่จะใช้เป็นฐานในการทำสัญญาประกันอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่านั้น และในสัญญา ดังกล่าวบริษัทฯ จะนำอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (fixed rate) ที่กำหนดไว้ที่ 8% ต่อปี ไปแลกเปลี่ยนกับ อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวในอัตรา LIBOR. จากบริษัท ก โดยตกลงให้กำหนดเวลาการแลกเปลี่ยนให้ ตรงกับกำหนดเวลาที่บริษัทฯ จะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารผู้ให้กู้ ฉะนั้น ถ้าหากอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ซึ่งบริษัทฯ ทำประกันอัตราดอกเบี้ยคงที่ไว้กับ บริษัท ซิตี้คอร์ปฯต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว บริษัท ก ก็จะต้องส่งเงินผลต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ย แบบคงที่กับอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวที่เกิดขึ้นมาให้บริษัทฯ ในทางตรงข้ามหากอัตราดอกเบี้ยลอยตัวใน ขณะนั้นต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยคงที่ บริษัทฯ ก็จะต้องส่งเงินผลต่างนั้นไปให้แก่บริษัท ก ดังนั้น ผลแตกต่าง ดังกล่าวจึงไม่ใช่ดอกเบี้ย แต่เป็นผลแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่กับอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ซึ่ง ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงไม่มีหน้าที่หักภาษีเงินได้นำส่งตาม มาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 40(4)(ก), มาตรา 70แนววินิจฉัย1. ตามมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ปัจจุบันมีการแก้ไขหลังสุดตาม พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 29) พ.ศ. 2534 ได้บัญญัติเพิ่มเติมให้รวมถึง "เงินได้ที่มีลักษณะทำนองเดียวกันกับดอกเบี้ย ผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนอื่น ๆ ที่ได้จากการให้กู้ยืมหรือ จากสิทธิเรียกร้องในหนี้ทุกชนิดไม่ว่าจะมีหลักประกัน หรือไม่ก็ตาม" ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2534 ดังนั้น หนังสือของกรมสรรพากร ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2531 เป็นข้อหารือก่อนมี การแก้ไขมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร จึงวินิจฉัยว่ากรณีดังกล่าวไม่ใช่ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมตาม มาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ส่วนกรณีหนังสือของกรมสรรพากร ลงวันที่ 20 มีนาคม 2539 เป็นข้อหารือหลังจากมีการแก้ไขมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร จึงวินิจฉัยว่าเงินได้ดังกล่าว เป็นเงินได้ที่มีลักษณะทำนองเดียวกับดอกเบี้ย ตามมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร 2. กรณีตามข้อเท็จจริงข้างต้น บริษัทฯ ได้ทำสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและ อัตราดอกเบี้ยโดยบริษัทฯ จ่ายในอัตราคงที่ และบริษัท ก จ่ายอัตราลอยตัว เงินส่วนต่างของอัตรา ดอกเบี้ยที่บริษัทฯจ่ายให้กับบริษัท ก ดังกล่าว จึงเข้าลักษณะเป็นเงินได้ที่มีลักษณะทำนองเดียวกับดอกเบี้ย ผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนอื่น ๆที่ได้จากการให้กู้ยืมตามมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงมีหน้าที่หักภาษีเงินได้นำส่งในอัตราร้อยละ 15 ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 8011/11192 ลงวันที่ 02 พฤศจิกายน 2542 |