Skip to Content

จ่ายเงินได้ไปต่างประเทศ ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายค่าบริการให้ธนาคารในต่างประเทศ

เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายค่าบริการให้ธนาคารในต่างประเทศ


ข้อเท็จจริง

ธนาคารในกรุงเทพฯ ได้ทำสัญญาเพื่อขอรับบริการจากธนาคารในฮ่องกง ในเมืองฮ่องกง

รวม 3 ฉบับ ซึ่งแต่ละฉบับมีรายละเอียดของการให้บริการต่าง ๆ โดยสังเขป ดังนี้

สัญญาฉบับที่ 1 เป็นการให้บริการโดยฝ่ายโทรคมนาคมเกี่ยวกับการรับส่งข้อมูลประวัติ

ผู้ใช้บริการ ดูแลระบบการสื่อสารและการส่งข้อความ สอบยัน ตรวจสอบหรือแก้ไขข้อมูล ที่มีการส่ง

ระหว่างกัน

สัญญาฉบับที่ 2 เป็นการให้บริการโดยฝ่ายจัดการและวิธีการในด้านการควบคุมดูแลบำรุงรักษา

ระบบความปลอดภัยของการใช้คอมพิวเตอร์ แก้ไข ปรับปรุง และระงับประวัติผู้ใช้บริการ รวมทั้งระงับ

การฝ่าฝืนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์

สัญญาฉบับที่ 3 เป็นการให้บริการโดยฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งแบ่งการ ให้บริการเป็น

2 ลักษณะใหญ่ คือ

(1) ระบบและการปฏิบัติการโดยเป็นการให้บริการให้คำปรึกษา บริการบำรุงรักษาโปรแกรม

คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โทรคมนาคม ให้บริการพัฒนาและแนะนำระบบใหม่ รวมถึง ค่าธรรมเนียมการใช้

โปรแกรมคอมพิวเตอร์

(2) ศูนย์บริการและสนับสนุนให้บริการและสนับสนุนทางบัญชี การกู้ยืม ติดต่อการค้าและ

การเงิน ให้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ แนะนำและติดตั้งระบบป้องกันไวรัส สร้างตู้รับจดหมายใหม่

บริการเครือข่ายภายในพื้นที่และบำรุงรักษาระบบเชื่อมข้อมูล

ในการให้บริการตามสัญญาทั้ง 3 ฉบับดังกล่าวข้างต้น จะมีวิธีการคิดค่าบริการแยกต่างหาก

ต่าง ๆ กันไป ธนาคารในกรุงเทพฯ ได้หารือว่าในการชำระค่าบริการตามสัญญาทั้ง 3 ฉบับ นั้น

ธนาคารในกรุงเทพฯ มีหน้าที่จะต้องหักภาษีจากเงินได้ที่จ่าย ภายใต้บังคับบทบัญญัติของอนุสัญญาภาษีซ้อน

ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเบลเยี่ยมในอัตราใด


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 70

แนววินิจฉัย

กรณีที่ธนาคารในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสาขาของธนาคารในเบลเยี่ยม ทำสัญญารับการให้บริการ

จากธนาคารในฮ่องกง ซึ่งเป็นสาขาของธนาคารในประเทศเบลเยี่ยม โดยที่ธนาคารในเบลเยี่ยมกับ

ธนาคารในเบลเยี่ยม ต่างได้จัดตั้งขึ้นเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากกันตามกฎหมายของประเทศเบลเยี่ยม

ดังนั้น ธนาคารในกรุงเทพฯ และธนาคารในฮ่องกง จึงเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากกัน เมื่อธนาคารใน

กรุงเทพฯ ชำระค่าบริการไปให้ธนาคารในฮ่องกง ในเมืองฮ่องกง จึงอยู่ในบังคับต้องหักภาษีจากเงินได้

ที่จ่าย ดังต่อไปนี้

1. การให้บริการตามสัญญาฉบับที่ 1 และฉบับที่ 2 และการให้บริการในส่วนของศูนย์บริการ

และสนับสนุนการให้บริการทั่ว ๆ ไป ของสัญญาฉบับที่ 3 ค่าตอบแทนจากการให้บริการในส่วนนี้มีลักษณะ

เป็นกำไรจากธุรกิจอันได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทย ตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ของ

ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรเบลเยี่ยม เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนในส่วนที่

เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ และมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร

ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2505 ธนาคารในกรุงเทพฯ จึงไม่มีหน้าที่หักภาษีจาก

เงินได้ที่จ่าย

2. การให้บริการตามสัญญาฉบับที่ 3 เป็นการให้บริการที่ต้องใช้ทักษะ ความสามารถเป็น

พิเศษในการคิดสร้างสรรค์ หรือทำขึ้นใหม่ในส่วนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ค่าตอบแทนในส่วนนี้จึงเข้า

ลักษณะเป็นค่าสิทธิ ตามข้อ 12 วรรค 2 (ก) ของความตกลงระหว่าง ราชอาณาจักรไทยกับ

ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ ธนาคารใน

กรุงเทพฯ จึงต้องหักภาษีจากเงินได้ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 5 ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร

และข้อ 12 วรรค 2(ก) ของอนุสัญญาภาษีซ้อนฯ ดังกล่าว




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0706/9429 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2545

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)