Skip to Content

จ่ายเงินได้ไปต่างประเทศ ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม

เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม


ข้อเท็จจริง

คณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ แจ้งว่า คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแผนการใช้เงิน

จากธนาคารโลกเพื่อดำเนินการตามแผนปฏิรูประบบบริหารภาครัฐ โดยให้กระทรวงการคลังจัดสรรเงินกู้

เพื่อปรับโครงสร้างภาคราชการ หรือจากเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่จะมีในอนาคต

ในการดำเนินการส่วนใหญ่ต้องมีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้เชี่ยวชาญทั้งชาวไทยและ

ชาวต่างประเทศ ซึ่งรายได้ของผู้รับจ้างจะต้องมีการหักภาษีเงินได้ และการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มในกรณี

ต่าง ๆ เพื่อจะได้เป็นแนวทางปฏิบัติตรงกัน จึงหารือว่า

1. หลักการหักภาษีเงินได้ของนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา ทั้งไทยและต่างประเทศแตกต่างกัน

หรือไม่ และมีหลักเกณฑ์การหักภาษีเงินได้อย่างไร

2. กรณีชาวต่างประเทศที่เป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา การหักภาษีเงินได้กรณีนิติบุคคล 1%

และบุคคลธรรมดา 15% นั้น มีการกำหนดระยะเวลาการอยู่ในประเทศไทยเป็นเงื่อนไขในการหักภาษี

หรือไม่อย่างไร

3. กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม นิติบุคคลที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทย และที่

ไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทยจะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้เหลือ 0% เท่ากันหรือไม่

อย่างไร หากกรณีที่ไม่จดทะเบียนจะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราใด


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มรตรา 69 ทวิ, มาตรา 70, มาตรา 50(1), มาตรา 80/1(4)

แนววินิจฉัย

1. การหักภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีส่วนราชการเป็นผู้จ่ายเงินได้ให้แก่ผู้รับที่เป็น

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือที่ตั้ง

ขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและประกอบกิจการในประเทศไทย ให้คำนวณหักภาษีเงินได้ไว้ ณ ที่จ่าย

ในอัตราร้อยละ 1 ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร กรณีจ่ายให้แก่ผู้รับที่เป็น

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย

และเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(2)(3)(4)(5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร ให้หักภาษีจากเงินได้

นั้นในอัตราร้อยละ 15 เว้นแต่เงินได้ตามมาตรา 40(4) (ข) ให้หักภาษีในอัตราร้อยละ 10 ทั้งนี้ ตาม

มาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร

2. การหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีส่วนราชการเป็นผู้จ่ายเงินได้ให้แก่ผู้รับซึ่งเป็น

บุคคลธรรมดา การคำนวณหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้ ณ ที่จ่ายเป็นไปตามมาตรา 50 แห่ง

ประมวลรัษฎากร ตามประเภทเงินได้ที่บุคคลธรรมดานั้น ๆ ได้รับ เช่น กรณีบุคคลธรรมดามีเงินได้

เนื่องจากการจ้างแรงงานตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร การคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

จะเป็นไปตามมาตรา 50(1) แห่งประมวลรัษฎากร กรณีบุคคลธรรมดามีเงินได้จากการรับทำงานให้ตาม

มาตรา 40(2) แห่งประมวลรัษฎากร การคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายจะเป็นไปตามมาตรา 50(1)

แห่งประมวลรัษฎากร กรณีผู้รับเป็นผู้อยู่ในประเทศไทย แต่กรณีผู้รับมิได้เป็นผู้อยู่ในประเทศไทย

การคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายให้คำนวณหักในอัตราร้อยละ 15.0 ของเงินได้ ตามมาตรา 50(1)

วรรคท้าย แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดระยะเวลาการอยู่ในประเทศไทย จึงอาจเป็นเงื่อนไขในการหัก

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในบางกรณี

กรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษีเป็นผู้ซึ่งอยู่ในประเทศที่มีความตกลงหรือมีอนุสัญญา ว่าด้วย

การเว้นการเก็บภาษีซ้อนกับประเทศไทย การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

จะต้องพิจารณาถึงอนุสัญญาฯ ระหว่างประเทศไทยกับประเทศนั้น ๆ ด้วย

3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งจะได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มใน อัตรา

ร้อยละ 0 ซึ่งเป็นอัตราที่ใช้ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ขาย สินค้าหรือ

ให้บริการกับส่วนราชการตามโครงการเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศจะต้องเป็นไปตาม

หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 28)

เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการขายสินค้าหรือการให้บริการกับกระทรวง ทบวง กรม

ราชการส่วนท้องถิ่นหรือรัฐวิสาหกิจ ตามโครงการเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศตามมาตรา

80/1(4) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2535 กรณีผู้ประกอบการมิได้เป็น

ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการนั้น ๆ ไม่ได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา

ร้อยละ 0




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/6763 ลงวันที่ 09 กรกฎาคม 2544

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)