Skip to Content

จ่ายเงินได้ไปต่างประเทศ ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย กรณีจ่ายค่าธรรมเนียมและค่าที่ปรึกษาไปต่างประเทศ

เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย กรณีจ่ายค่าธรรมเนียมและค่าที่ปรึกษาไปต่างประเทศ


ข้อเท็จจริง

ปัญหาภาษีหัก ณ ที่จ่าย กรณีจ่ายค่าธรรมเนียมและค่าที่ปรึกษาไป

ต่างประเทศ สรุปข้อเท็จจริง ดังนี้

1. จากการวิเคราะห์ข้อมูลการยื่นแบบ ภ.พ.36 ปรากฏว่า มีการจ่าย

ค่าธรรมเนียมการให้คำแนะนำและปรึกษาให้แก่ บริษัท อ. ซึ่งเป็นการจ่ายเงินให้

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและมิได้

กระทำกิจการในประเทศไทย แต่บริษัทฯ มิได้หักภาษี และนำส่งด้วยแบบ ภ.ง.ด.54

ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากรแต่อย่างใด

2. บริษัทฯ เป็นนิติบุคคลในเครือเดียวกันของกลุ่มบริษัท ม. ที่ถือหุ้นทั้ง

ทางตรงและทางอ้อมโดยกลุ่มบริษัท ม. ในการบริหารงานของบริษัทในเครือ ม. จะ

ใช้วิธีการจัดสรรพนักงานที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน ขึ้นเป็นกลุ่มสนับสนุน

ร่วม เป็นหน่วยงานกลางของกลุ่ม ม. ทำหน้าที่ให้การสนับสนุนการบริหารการ

จัดการ การดำเนินงานและการควบคุมต้นทุนของบริษัทในเครือทั่วโลก โดย

ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะทำการปันส่วนไปยังบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะจ่ายเงิน

ค่าตอบแทนให้ บริษัท อ. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท ม. เช่นกัน การดำเนินการ

ดังกล่าวจะมีหลักเกณฑ์การปันส่วนรายจ่ายจากรายรับ จึงถือเป็นการจ่ายเงินได้พึง

ประเมินที่เข้าลักษณะ “ค่าสิทธิ” ตามข้อ 12 วรรคสอง แห่งอนุสัญญาระหว่างรัฐบาล

แห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ เพื่อการเว้นการเก็บภาษี

ซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 70 พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2505 อนุสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา

แนววินิจฉัย

กรณีเงินได้จากสัญญาให้บริการตามข้อเท็จจริงดังกล่าว บริษัท อ. ผู้ว่าจ้าง

มีสถานภาพเป็นสำนักงานสาขาของบริษัทต่างประเทศ จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของ

มลรัฐเดลาแวร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ บริษัท อ. ผู้รับจ้าง มีสถานภาพ

เป็นสำนักงานสาขาของบริษัทต่างประเทศ จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศ

สหรัฐอเมริกา กรณีดังกล่าว แม้เป็นการจ่ายเงินได้จากประเทศไทยไปยังประเทศ

สิงคโปร์ แต่ไม่อาจปรับใช้บทบัญญัติแห่งอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่ง

ราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน

และการป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ แต่ต้อง

พิจารณาถึงบทบัญญัติแห่งอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และ

รัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงการ

รัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ เนื่องจากบริษัท อ. ผู้มีเงินได้พึง

ประเมินมีถิ่นที่อยู่ตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ ตามข้อ 1 วรรค

หนึ่งแห่งอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่ง

สหรัฐอเมริกาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากรใน

ส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ นอกจากนี้ ลักษณะงานตามสัญญาให้บริการที่

บริษัท อ. มีหน้าที่ต้องดำเนินการคือการสนับสนุนในระดับภูมิภาค (Regional

Operating Center) สำหรับการโฆษณา (Regional Advertising) การวิจัยและ

พัฒนาเพื่อปรับปรุงส่วนแบ่งตลาดสำหรับกลุ่มสินค้าภายในเครือเดียวกัน

(Regional Franchises) ระบบสารสนเทศ (Information System) การบริหารทาง

การเงิน (Services and Finances) การจัดการด้านบุคลากร (Personal and

Organization) ซึ่งลักษณะงานถือเป็นการทำหน้าที่เพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน

ทางภูมิภาคให้แก่บริษัทภายในเครือ มิใช่เป็นค่าตอบแทนจากการใช้หรือสิทธิใน

การใช้ลิขสิทธิ์ใด ๆ ในงานวรรณกรรม ศิลปะ หรือ วิทยาศาสตร์ สิทธิบัตร

เครื่องหมายการค้า แบบ หรือหุ่นจำลอง แผนผังสูตรลับหรือกรรมวิธีใด ๆ หรือเป็น

ค่าตอบแทนเพื่อการใช้หรือสิทธิในการใช้อุปกรณ์ทางอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม

หรือวิทยาศาสตร์ หรือเป็นการถ่ายทอดข้อสนเทศที่เกี่ยวกับประสบการณ์ทาง

อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือวิทยาศาสตร์ ตามข้อ 12 วรรคสาม แห่งอนุสัญญา

ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาเพื่อการเว้นการ

เก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจาก

เงินได้ แต่ถือเป็นกำไรจากธุรกิจ ดังนั้น หากบริษัท อ. ได้ให้บริการดังกล่าวใน

ต่างประเทศ และมิได้กระทำผ่านสถานประกอบการถาวรในประเทศไทย บริษัท อ.

จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทยจากการให้บริการดังกล่าว

ทั้งนี้ ตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง แห่งอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และ

รัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงการ

รัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ ประกอบกับมาตรา 3 แห่งพระราช

กฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2505 บริษัทฯ ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้นิติบุคคล

ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0706/8657 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2548

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)