จ่ายเงินปันผล ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายเงินปันผล
เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายเงินปันผลข้อเท็จจริง1. บริษัทฯ ประกอบกิจการเกี่ยวกับการให้บริการบำบัดน้ำเสียในนิคมอุตสาหกรรมโดยไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 2. บริษัทฯ มีผู้ถือหุ้นสองราย คือ บริษัท ช. ซึ่งถือหุ้นในบริษัทฯ จำนวนร้อยละ 51 และ (T) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศสิงคโปร์โดยไม่ได้ประกอบกิจการในประเทศไทย ถือหุ้นในบริษัทฯ จำนวนร้อยละ 49 ทั้งนี้บริษัทฯ มิได้ถือหุ้นในบริษัท ช. ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแต่อย่างใด 3. บริษัทฯ ทำการประกาศจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นปลายปี 2556 บริษัทฯ ขอหารือดังนี้ 1. บริษัทฯ สามารถจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมทั้งหมดรวมกับกำไรสุทธิปลายปี หักสำรองตามกฎหมายแล้ว ได้หรือไม่ 2. เมื่อทำการจ่ายเงินปันผล บริษัทฯ ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย และบริษัทผู้ถือหุ้นไม่ต้องนำเงินปันผลไปคำนวณรวมเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษี ใช่หรือไม่ 3. หากมีข้อกฎหมายที่ห้ามจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมทั้งหมดของบริษัทฯ และบริษัทฯ ทำการจ่ายไป บริษัทฯ จะมีความผิดใดบ้าง กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 3 เตรส มาตรา 65 ทวิ (10) และมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากรแนววินิจฉัย1. กรณีตาม 1. และ 3. วิธีการและหลักเกณฑ์การจ่ายเงินปันผล และการจัดสรรเงินไว้เป็นทุนสำรอง บริษัทฯ มีหน้าที่จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบของกรมสรรพากร 2. กรณีตาม 2. เมื่อบริษัทฯ จ่ายเงินปันผล สามารถพิจารณาภาระภาษีได้ดังต่อไปนี้ 2.1 กรณีบริษัทฯ จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นราย บริษัท ช. ซึ่งเป็นบริษัทจำกัดที่ถือหุ้นในบริษัทฯ เกินกว่าร้อยละ 25 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงและบริษัทฯ มิได้ถือหุ้นในบริษัท ช. ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม บริษัทฯ ไม่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 5 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2528 กรณีบริษัท ช. รับเงินปันผลจากบริษัทฯ โดยบริษัท ช. ถือหุ้นในบริษัทฯ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียง และบริษัทฯ ไม่ได้ถือหุ้นในบริษัท ช. ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หากบริษัท ช. ถือหุ้นไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามเดือนนับแต่วันที่ได้หุ้นนั้นมา จนถึงวันที่บริษัท ช. ได้รับเงินปันผล และยังคงถือหุ้นดังกล่าวต่อไปอีกเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามเดือนนับแต่วันที่ได้รับเงินปันผล บริษัท ช. ไม่ต้องนำเงินปันผลดังกล่าวมารวมเป็นรายได้ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 65 ทวิ (10) แห่งประมวลรัษฎากร 2.2 กรณีบริษัทฯ จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นราย T ซึ่งเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายประเทศสิงคโปร์ และมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทยเข้าลักษณะเป็นกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ มิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย แต่ได้รับเงินได้ตามมาตรา 40 (4) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร ที่จ่ายออกจากประเทศไทย T มีหน้าที่ต้องเสียภาษี โดยบริษัทฯ ต้องหักภาษีจากเงินได้พึงประเมินที่จ่ายในอัตราร้อยละ 10 ของเงินปันผล ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0702/5922 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2557 |