Skip to Content

ขอคืนภาษี ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีขอคืนภาษีที่กรมศุลกากรประเมินเพิ่มเติม

เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีขอคืนภาษีที่กรมศุลกากรประเมินเพิ่มเติม


ข้อเท็จจริง

1. บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบกิจการนำเข้าสินค้าบุหรี่ต่างประเทศเพื่อขาย ต่อมาบริษัทฯ ถูก

กรมศุลกากรประเมินราคาและภาษีอากรเพิ่มเติมโดยแจ้งว่า บริษัทฯ ร่วมมือกับ บริษัท จ. และบริษัท

อ. จำกัด สำแดงราคาบุหรี่เพื่อเสียอากรในขณะนำเข้าไว้ต่ำกว่าราคากรมศุลกากรสำหรับการนำเข้า

จนถึงปี พ.ศ. 2542

2. บริษัทฯ ต้องชำระค่าอากรและอากรพิเศษ ค่าปรับอากรและอากรพิเศษ ค่าแสตมป์ยาสูบ

ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าเบี้ยปรับและเงินเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 103,940,148.50 บาท

และ 599,971,585.14 บาท แต่มิได้ระบุว่าเป็นการนำเข้าของเดือนภาษีใด จำนวนเงินเท่าใด บริษัทฯ

ได้ยินยอมชำระภาษีอากรและค่าปรับที่เกี่ยวข้องดังรายการต่อไปนี้

รายการ จำนวนเงินตามคำร้องขอคืน รวม

(1)* (2)*

อากร/อากรพิเศษ 8,504,675.00 45,638,110.00 54,142,785.00

ค่าปรับอากร/อากรพิเศษ 17,009,350.00 91,276,220.00 108,285,570.00

แสตมป์ยาสูบ 58,013,909.00 346,675,646.00 404,689,555.00

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ขอคืนภาษี) 8,294,217.00 45,597,575.00 53,891,792.00

เงินเพิ่ม ภ.พ. 3,823,780.50 25,186,459.14 29,010,239.64

เบี้ยปรับ ภ.พ. 8,294,217.00 45,597,575.00 53,891,792.00

รวม 103,940,148.50 599,971,585.14 703,911,733.64

หมายเหตุ ชำระยอด (1)* เมื่อ 10/10/2543 จำนวนเงิน 17,009,350.00 บาท

และ 12/10/2543 จำนวนเงิน 86,930,798.50 บาท

รวมจำนวนเงิน 103,940,148.50 บาท

ชำระยอด (2)* เมื่อ 25/10/2543 จำนวนเงิน 91,276,220.00 บาท

และ 10/11/2543 จำนวนเงิน 508,695,365.14 บาท

รวมจำนวนเงิน 599,971,585.14 บาท

1. ภาษีอากรที่บริษัทฯ ชำระให้กับกรมศุลกากรนั้น ได้รับมาจากบริษัท J และ บริษัท อ. ดังนี้

บริษัท J บริษัท อ.

งวดที่ 1 28/9/46 17,057,217.99 บาท 25/10/43 91,276,220.00 บาท

งวดที่ 2 5/10/43 84,435,554.63 บาท 9/11/46 508,695,365.24 บาท

งวดที่ 3 26/10/43 2,446,775.88 บาท - บาท

103,939,548.50 บาท 599,971,585.24 บาท

หมายเหตุ ภาษีอากรที่ได้รับจาก บริษัท JT International S.A. Geneva ในงวดที่ 1 และ 2

บริษัทฯ แจ้ง ธนาคารแห่งประเทศไทยว่าเป็นการกู้ยืมตามแบบ ธต.3 งวดที่ 3 ได้รับเป็นเช็คธนาคาร

เข้าบัญชีบริษัทฯ


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 83/10(1), มาตรา 88/6(1)(ก)

แนววินิจฉัย

1. กรณีบริษัทฯ แสดงราคาบุหรี่นำเข้าเพื่อเสียภาษีอากรขาเข้าไว้ต่ำกว่าราคาที่กรมศุลกากร

กำหนดสำหรับการนำเข้าจนถึงปี พ.ศ. 2542 กรมศุลกากรจึงประเมินราคาบุหรี่นำเข้าเพิ่มเติม

พร้อมทั้งประเมินอากรขาเข้า ค่าปรับอากรและอากรพิเศษ แสตมป์ยาสูบ ภาษีมูลค่าเพิ่มเบี้ยปรับและ

เงินเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานประเมินกรมศุลกากรมีอำนาจประเมินภาษีอากรให้

ครบถ้วนถูกต้องตามมาตรา 83/10(1) และมาตรา 88/6(1)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น

ภาษีมูลค่าเพิ่มที่บริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าได้เสียไปเมื่อนำเข้าสินค้า จึงเป็นภาษีซื้อ ตามมาตรา

77/1(18)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ มีสิทธินำภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวมาถือเป็นภาษีซื้อในเดือนที่

ชำระภาษีตามการประเมิน แต่ต้องไม่เกินสามปีนับจากวันที่ออกใบกำกับภาษี คือ วันที่ระบุไว้ใน

ใบเสร็จรับเงินที่กรมศุลกากรออกให้ในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อกรมสรรพากร ทั้งนี้ ตามมาตรา

82/3 วรรคสี่ มาตรา 84 และมาตรา 86/14 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับกรณีเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม

เป็นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 89/2 แห่งประมวลรัษฎากร แต่ไม่ถือเป็นภาษีซื้อตามมาตรา 77/1(18)(ก)

แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ ไม่มีสิทธินำเบี้ยปรับและเงินเพิ่มดังกล่าวมาถือเป็นภาษีซื้อใน

การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร

2. กรณีบริษัท J และบริษัท อ ได้ชำระค่าภาษีอากรที่บริษัทฯ ถูกกรมศุลกากรประเมิน

เรียกเก็บจำนวน 703,911,733.64 บาท แทนบริษัทฯ เงินจำนวนดังกล่าวบริษัทฯ ต้องนำไปถือเป็น

รายได้ในการคำนวณฯ กำไรสุทธิตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากรหรือไม่นั้น ปรากฏข้อเท็จจริง

เพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้อุทธรณ์การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินในประเด็นดังกล่าว และ อธ. โดย

ความเห็นชอบของกรมสรรพากรได้พิจารณาอุทธรณ์ของบริษัทฯ เสร็จสิ้นแล้วตามบันทึกลงวันที่ 14

พฤษภาคม 2546 จึงเห็นควรให้เป็นไปตามผลการพิจารณาอุทธรณ์ที่ อธ.




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0706(กม.06)/675 ลงวันที่ 09 กรกฎาคม 2546

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)