Skip to Content

ขยายเวลา ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีของดเงินเพิ่มของผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติอุทกภัย

เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีของดเงินเพิ่มของผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติอุทกภัย


ข้อเท็จจริง

บริษัท ว. (บริษัทฯ) ค้างชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ตามใบแจ้งการค้างชำระภาษีอากร (บช.35) รวมเป็นเงิน 6,570,825.09 บาท ชำระบางส่วนคงค้าง 1,623,103.59 บาท (ยังไม่รวมเงินเพิ่มตามกฎหมาย) โดยบริษัทฯ ได้รับอนุมัติจากกรมสรรพากรให้ผ่อนชำระภาษีอากรจำนวน 15 งวด โดยงวดแรกชำระในนที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 จำนวน 100,000 บาท งวดที่ 2-3 งวดละ 100,000 บาท งวดที่ 4-14 งวดละ 600,000 บาท และงวดสุดท้าย จำนวน 565,176.01 บาท โดยมีบุคคลค้ำประกันการผ่อนชำระภาษีอากรพร้อมสั่งจ่ายเช็คลงวันที่ล่วงหน้า จำนวน 15 ฉบับเพื่อชำระภาษีอากร

ต่อมาบริษัทฯ ได้มีหนังสือชี้แจงเพื่อของดการเสียเงินเพิ่มโดยผลกระทบจากอุทกภัย โดยอ้างว่า บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติให้ผ่อนชำระค่าภาษีอากรตามระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการผ่อนชำระภาษีอากร พ.ศ. 2545 โดยมีการสั่งจ่ายเช็คลงวันที่ล่วงหน้าจำนวน 15 ฉบับ ซึ่งบริษัทฯ ได้ผ่อนชำระภาษีตามกำหนดด้วยดี แต่งวดที่ 9 ซึ่งถึงกำหนดชำระในวันที่ 28 ตุลาคม 2554 บริษัทฯ ไม่สามารถชำระได้ตามกำหนด เนื่องจากเจ้าหน้าที่บัญชีและการเงินของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ดูแล ประสบปัญหาน้ำท่วมไม่สามารถเดินทางมาทำงานและติดต่อสื่อสารได้ เมื่อบริษัทฯ ทราบข้อมูลจากธนาคาร บริษัทฯจึงติดต่อขอชำระภาษี และต้องเสียเงินเพิ่มเป็นจำนวน 9,000 บาท โดยบริษัทฯ ได้ชำระเฉพาะตัวภาษีอากรและของดเงินเพิ่มดังกล่าว


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 3 อัฎฐ แห่งประมวลรัษฎากร

แนววินิจฉัย

กรณีตามข้อเท็จจริง มิใช่กรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีอากรภายในกำหนดเวลาที่ประมวลรัษฎากรกำหนด เนื่องจากมีสถานประกอบการตั้งอยู่ในเขตประสบอุทกภัยตามคำชี้แจงกรมสรรพากร เรื่อง การขยายกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีอากรให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีหรือนำส่งภาษีในท้องที่ที่เกิดภัยพิบัติอุทกภัย ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2554 ที่จะได้รับสิทธิขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติไว้ ตามมาตรา 3 อัฏฐ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร แต่เป็นกรณีที่บริษัทฯ ได้รับอนุมัติจากกรมสรรพากรให้ผ่อนชำระภาษีอากร จำนวน 15 งวด โดยงวดที่ 9 ซึ่งถึงกำหนดชำระในวันที่28 ตุลาคม 2554 แต่บริษัทฯ ไม่สามารถชำระได้ตามกำหนดเวลา และเนื่องจากไม่มีบทบัญญัติใดในประมวลรัษฎากรที่ให้อำนาจงดเงินเพิ่มในกรณีข้างต้นไว้ ประกอบกับกำหนดเวลาการชำระภาษีตามแบบแจ้งการประเมินดังกล่าว มิใช่เป็นกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการหรือแจ้งรายการต่างๆ กำหนดเวลาการอุทธรณ์ หรือกำหนดเวลาการเสียภาษีอากรตามที่กำหนดไว้ในประมวลรัษฎากร ตามมาตรา 3 อัฏฐ วรรคหนึ่ง แแห่งประมวลรัษฎากร ที่จะสามารถขยายหรือเลื่อนกำหนดเวลาออกไปอีก ดังนั้น บริษัทฯ ต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องเสียหรือนำส่ง ตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0702/3110 ลงวันที่ 04 เมษายน 2556

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)