กิจการร่วมค้า ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการดำเนินกิจการที่เข้าลักษณะเป็นกิจการร่วมค้า
เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการดำเนินกิจการที่เข้าลักษณะเป็นกิจการร่วมค้าข้อเท็จจริงห้างหุ้นส่วนจำกัด พ. รับจ้างธนาคารออมสินทำการก่อสร้างสำนักงานธนาคารจังหวัด นครศรีธรรมราช แต่ได้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจทำให้งานก่อสร้างล่าช้า ห้างฯ จึงขอขยายเวลาและเพิ่ม คู่สัญญาคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ก. เป็นผู้รับจ้างร่วมตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการช่วยเหลือ ผู้ประกอบอาชีพก่อสร้าง และผู้ประกอบอาชีพงานอื่น ของคณะกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ช่วยเหลือ ผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างและผู้ประกอบอาชีพงานอื่นกับทางราชการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุง ระบบการแลกเปลี่ยนเงินตรา สำนักงบประมาณ ซึ่งธนาคารออมสินได้อนุมัติตามความประสงค์ห้างฯ และ ผู้รับจ้างร่วม ได้ร่วมทำการก่อสร้าง โดยห้างฯ เป็นผู้ประกอบการก่อสร้าง และผู้รับจ้างร่วมได้สนับสนุน เงินลงทุนในแต่ละงวดงาน ห้างฯ ตกลงให้ผู้รับจ้างร่วมเป็นผู้รับเงินค่าจ้างแต่เพียงผู้เดียว โดยห้างฯ เป็นผู้ออกใบกำกับภาษีมอบให้ธนาคารออมสินประกอบการเบิกเงินค่าก่อสร้างในแต่ละงวดต่อมาห้างฯ ได้ รับแจ้งจากธนาคารออมสินว่าไม่สามารถเบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างร่วมได้ เนื่องจากใบกำกับภาษีและชื่อ ผู้รับเงินไม่ตรงกัน ห้างฯ ได้หารือว่า การที่ห้างฯ ใช้ใบกำกับภาษีของห้างฯ ในการเบิกจ่ายค่าก่อสร้าง โดยหนังสือสัญญาก่อสร้างกำหนดให้จ่ายเงินค่าจ้างแก่ผู้รับจ้างร่วมซึ่งเข้ามาร่วมทุนเพื่อสนับสนุน สภาพคล่องทางการเงินได้หรือไม่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 39, มาตรา 82/4, มาตรา 86แนววินิจฉัย1. กรณีห้างฯ และห้างหุ้นส่วนจำกัด ก. ผู้รับจ้างร่วมตกลงกันให้ห้างฯ เป็นผู้ประกอบการ ก่อสร้าง โดยผู้รับจ้างร่วมเป็นผู้สนับสนุนเงินลงทุนในแต่ละงวดงาน และผู้รับจ้างร่วมยอมผูกพันตนอย่าง ลูกหนี้ร่วมทุกประการสัญญาดังกล่าวไม่มีการแบ่งแยกงานและค่าตอบแทนที่ชัดเจนแต่อย่างใด จึงเข้า ลักษณะเป็นกิจการร่วมค้าและมีฐานะเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามมาตรา 39 แห่ง ประมวลรัษฎากร 2. ห้างฯ และห้างหุ้นส่วนจำกัด ก. ผู้รับจ้างร่วม ในฐานะกิจการร่วมค้า มีหน้าที่ยื่นคำขอ มีเลขประจำตัวและบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดให้ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีและใช้เลขประจำตัวในการปฏิบัติการตามประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2539 และอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 66 แห่ง ประมวลรัษฎากร 3. สัญญารับจ้างก่อสร้างดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นบริการ ตามมาตรา 77/1(10) แห่ง ประมวลรัษฎากร ห้างฯ และห้างหุ้นส่วนจำกัด ก. ผู้รับจ้างร่วม ในฐานะกิจการร่วมค้า จึงมีหน้าที่ต้อง จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/1(5) มาตรา 82 และมาตรา 85/1 แห่งประมวลรัษฎากร และมีหน้าที่ออกใบกำกับภาษีในนามของกิจการร่วมค้าเพื่อเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากธนาคารออมสิน ตามมาตรา 82/4 และมาตรา 86 แห่งประมวลรัษฎากร กรณีห้างฯ ออกใบกำกับภาษีในนามของห้าง จึงไม่ถูกต้อง ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/6199 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2543 |