การให้บริการ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีเงินได้ของโรงเรียนสยามคอมพิวเตอร์และภาษา
เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีเงินได้ของโรงเรียนสยามคอมพิวเตอร์และภาษาข้อเท็จจริง1. โรงเรียนฯ ได้เข้าทำสัญญากับองค์การบริหารส่วนจังหวัด ข. เพื่อดำเนินการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ตามโครงการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ข. และองค์กรปกครองท้องถิ่นอื่น คิดเป็นค่าเล่าเรียนคนละ 7,974 บาท ซึ่งโรงเรียนฯ ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งจากกระทรวงศึกษาธิการ ตามใบอนุญาตลงวันที่ 13 ธันวาคม 2539 เพื่อเปิดสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น และกวดวิชาระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนปลายให้แก่บุคคลทั่วไป เมื่อเรียนจบหลักสูตรจะได้รับประกาศนียบัตรเพื่อรับรองวิทยฐานะจากโรงเรียนฯ ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยในการสมัครเข้าเรียน ผู้สมัครต้องกรอกใบสมัคร และโรงเรียนฯ ต้องจัดทำบัญชีรายชื่อผู้เข้าเรียน มีการให้ลงลายมือชื่อเข้าเรียนตามวันและเวลาที่กำหนดในแต่ละหลักสูตร ผู้ผ่านเกณฑ์การทดสอบประเมินผลต้องเขียนคำขอรับใบประกาศนียบัตร และโรงเรียนฯ จะจัดทำทะเบียนไว้เป็นหลักฐานตามข้อบังคับที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด สำหรับผู้เข้ารับการอบรมตามสัญญาฉบับดังกล่าว ได้แก่ ครูและบุคลากรทางการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 1 ถึง 3 รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ก็ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงฯ กำหนดเช่นเดียวกับนักเรียนผู้สมัครเข้ารับการอบรมด้วยตนเองทุกประการ 2. แม้สัญญาจ้างจะกำหนดรายละเอียดให้อบรมด้วยหลักสูตร Microsoft Window XP, Adobe Photoshop CS และ Macromedia Authoware ก็ตาม แต่หลักสูตรดังกล่าวเป็นหลักสูตรที่ทางโรงเรียนฯ ได้เปิดสอนเป็นการทั่วไปอยู่แล้ว มิได้กำหนดขึ้นใหม่แต่อย่างใด องค์การบริหารส่วนจังหวัด ข. เป็นเพียงผู้เลือกหลักสูตร เพื่อให้บุคลากรในสังกัดได้เข้ารับการอบรมเท่านั้น ส่วนเงื่อนไขอื่นในสัญญาเป็นเพียงข้อกำหนดเกี่ยวกับระยะเวลาในการอบรม สถานที่ที่ใช้อบรมการจัดให้มีเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่แตกต่างไปจากการศึกษาที่โรงเรียนฯ แต่อย่างใด และแบบสัญญาจ้างที่ใช้เป็นเพียงแบบฟอร์มที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ข. นำมาใช้กับการทำนิติกรรมสัญญาทุกประเภท รายละเอียดบางส่วนจึงมิได้เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมเนื้อหาบางส่วนไม่อาจถือเป็นรายละเอียดในการอบรมตามโครงการนี้ได้ 3. นักเรียนที่จะได้รับประกาศนียบัตรต้องผ่านการสอบประเมินผลการเรียนตามหลักสูตร ซึ่งผู้รับการอบรมตามสัญญานี้ก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขนี้เช่นเดียวกัน ตามมาตรฐานของกระทรวงฯ ที่กำหนดให้ใช้กับนักเรียน ผู้เข้ารับการอบรมตามสัญญานี้จึงเป็นนักเรียน ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน มิใช่บุคคลภายนอกแต่อย่างใด ในโครงการนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลามีงบสนับสนุนให้จัดการอบรมบุคลากรได้จำนวน 750 คน หากจะให้บุคลากรเหล่านั้นเดินทางมาสมัครเรียนด้วยตนเองเป็นรายบุคคล ย่อมจะเกิดความไม่สะดวก กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 42(17) และมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากรแนววินิจฉัยการทำสัญญาจ้างระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัด ข. กับโรงเรียนฯ เป็นการจ้างเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของผู้ว่าจ้าง ซึ่งผู้ว่าจ้างเป็นผู้กำหนดรายละเอียดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอบรมตามสัญญาจ้าง อีกทั้งเป็นการสอนให้กับบุคคลภายนอกที่มิใช่นักเรียนของโรงเรียนฯ ดังนั้น เงินค่าจ้างตามสัญญาจ้างที่โรงเรียนฯ ได้รับไม่ถือว่าเป็นเงินได้จากกิจการของโรงเรียนราษฎร์ จึงไม่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา 42(17) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2(1) ของกฎกระทรวง 126 (พ.ศ. 2509)ฯ และรายรับดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นการให้บริการตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0706/4101 ลงวันที่ 18 เมษายน 2550 |