การแปลงเงินตราต่างประเทศเป็นเงินไทย ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการคำนวณหักภาษีเงินได้
เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการคำนวณหักภาษีเงินได้ข้อเท็จจริงบริษัทฯ เป็นนิติบุคคลจดทะเบียน และประกอบกิจการในประเทศไทย ได้ร่วมทุนกับบริษัท A ซึ่งเป็นนิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ได้ประกอบกิจการในประเทศไทย ตามสัญญา บริษัทฯ ต้องจ่ายค่าสิทธิ (ROYALTY) ให้กับบริษัท A เป็นจำนวน 2,774,715.71 บาท บริษัทฯ ได้หัก ภาษีจากการจ่ายค่าสิทธิไว้ 15% เป็นจำนวน 416,207.36 บาท ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร เหลือค่าสิทธิสุทธิเป็นจำนวน 2,358,508.35 บาท บริษัทฯ ได้กรอกแบบฟอร์มขอซื้อเงินตรา ต่างประเทศจากธนาคาร โดยระบุในคำขอว่าให้ส่งเงินจำนวน 2,358,508.35 บาท เทียบเท่าเงิน USD. ในวันที่ตามคำขอ ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคาร ณ วันที่โอนเท่ากับ 37.50 บาทต่อดอลลาร์ ค่าสิทธิดังกล่าวจึงคิดเป็นเงินดอลลาร์เท่ากับ 62,874.89 USD. บริษัทฯ ได้หักภาษีเงินได้และ ภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ตามยอดฐานภาษี 2,774,715.71 บาท ต่อมาสรรพากรพื้นที่ 7 ได้เรียกบริษัทฯ เข้าพบ และแจ้งว่า บริษัทฯ หักภาษีไว้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากฐานภาษีต้องใช้อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ย เงินดอลลาร์ ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเท่ากับ 37.7913 บาท/ดอลลาร์ บริษัทฯ จึงขอ ปรึกษาว่า การคำนวณหักภาษีเงินได้ของบริษัทฯ ถูกต้องหรือไม่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 9แนววินิจฉัยกรณีการจ่ายเงินค่าสิทธิของบริษัทฯ แม้ได้กำหนดจำนวนเงินไว้เป็นเงินบาทก็ตาม แต่เมื่อ บริษัทฯ ส่งเงินไปต่างประเทศเป็นเงินตราต่างประเทศ บริษัทฯ จะต้องใช้อัตรา แลกเปลี่ยนเงินตรา ตามอัตราอ้างอิงประจำวันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศไว้เป็นอัตรา แลกเปลี่ยนใน การคำนวณเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยของวันถัดไปตามมาตรา 9 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2(1) ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.71/2541 ฯ ลงวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2541 ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/9819 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2544 |