Skip to Content

การหักภาษี ณ ที่จ่ายของรัฐบาล ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีประกอบกิจการออกแบบจำหน่ายและติดตั้งสาธารณูปโภค

เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีประกอบกิจการออกแบบจำหน่ายและติดตั้งสาธารณูปโภค


ข้อเท็จจริง

บริษัทฯ เป็นนิติบุคคลตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศอิสราเอล ประกอบกิจการในการออกแบบ

จำหน่ายและติดตั้งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้า ในปี พ.ศ. 2540 บริษัทฯ ส่งตัวแทนเข้ามา

ประมูลโครงการวางระบบส่งกระแสไฟฟ้าและการพัฒนาสถานีไฟฟ้าย่อยของการไฟฟ้า บริษัทฯ ชนะการ

ประมูลและได้ทำสัญญากับการไฟฟ้า ซึ่งในขณะทำสัญญา บริษัทฯ ไม่มีสาขาหรือสถานประกอบการใด ๆ

ในประเทศไทย ตามสัญญาดังกล่าว บริษัทฯ จะต้องดำเนินงานโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้

1. ส่วนงานที่ต้องจัดทำในต่างประเทศ บริษัทฯ จะเป็นผู้จัดหาวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ และให้

การไฟฟ้าเป็นผู้นำเข้าวัสดุอุปกรณ์ดังกล่าว ตามสัญญาตกลงให้กรรมสิทธิ์ของวัสดุอุปกรณ์ที่การไฟฟ้านำเข้า

ตกเป็นของการไฟฟ้าเมื่อของที่นำเข้าได้บรรทุกลงเรือในต่างประเทศ สำหรับการชำระเงินค่าวัสดุที่

นำเข้า การไฟฟ้าจะชำระค่าวัสดุอุปกรณ์โดยแบ่งชำระเป็น 3 งวด ดังนี้

- งวดแรกเป็นการชำระเงินล่วงหน้าเมื่อมีการส่งใบแจ้งหนี้พร้อมกับหนังสือ ค้ำประกันแก่

การไฟฟ้า

- งวดที่สองจะชำระเงินเมื่อได้มีการส่งของลงเรือที่ท่าเรือต้นทางในต่างประเทศ

- งวดที่สามจะชำระเงินเมื่อการไฟฟ้าได้ออกหนังสือรับรองการยอมรับของชั่วคราวแล้ว

2. ส่วนงานในประเทศจะดำเนินการโดยสาขาของบริษัทฯ ในประเทศไทย ที่ตั้งขึ้นภายหลัง

จากการทำสัญญากับการไฟฟ้าแล้ว โดยสาขาของบริษัทฯ จะจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ภายในประเทศเพื่อทำ

การก่อสร้างส่วนของงานในประเทศให้เป็นไปตามแบบและให้แล้วเสร็จในกำหนดเวลาตามสัญญา จำนวน

540 วัน นับจากวันเซ็นสัญญา

บริษัทฯ เห็นว่าในส่วนของเงินได้ที่เป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ที่บริษัทฯ เป็นผู้จัดหาในต่างประเทศและ

ให้การไฟฟ้าเป็นผู้นำเข้า บริษัทฯ ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล เนื่องจากเงินได้ดังกล่าว เข้า

ลักษณะเป็นกำไรจากธุรกิจซึ่งบริษัทฯ มิได้กระทำการผ่านทางสถานประกอบการถาวรในประเทศไทย จึง

ได้รับยกเว้นภาษีตามข้อ 7 วรรคแรก ของอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งประเทศไทยกับรัฐบาลแห่ง

ประเทศอิสราเอล เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงรัษฎากร ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษี

เก็บจากเงินได้ โดยบริษัทฯ ได้เทียบเคียงหนังสือตอบข้อหารือของกรมสรรพากรที่ กค 0802/9222

ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2536 ฉะนั้น เมื่อการไฟฟ้าชำระค่าวัสดุอุปกรณ์ที่สั่งจากต่างประเทศให้บริษัทฯ

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละหนึ่ง ตามมาตรา 69 ทวิ แห่ง

ประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด บริษัทฯ จึงหารือว่าความเห็นดังกล่าวของบริษัทฯ ถูกต้องหรือไม่


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 69 ทวิ

แนววินิจฉัย

ตามสัญญาดังกล่าว ไม่มีข้อความใดที่ระบุว่าเป็นสัญญาซื้อขายติดตั้งและก่อสร้างที่ประสงค์จะ

แยกราคาทรัพย์ที่ซื้อขายออกต่างหากจากค่าสินจ้าง แต่สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญารับจ้างทำของที่รวมราคา

ค่าอุปกรณ์ การขนส่ง ค่าติดตั้ง และงานก่อสร้าง (ทั้งในส่วนภายในประเทศและนอกประเทศ) เป็น

ราคารวมตามสัญญา ทั้งนี้ ปรากฏข้อความตามข้อ 2 แห่งสัญญา นอกจากนี้ในสัญญาก็ไม่ได้กำหนดให้

กรรมสิทธิ์ในสินค้าโอนมาให้การไฟฟ้า ในทันทีที่วัสดุอุปกรณ์ถูกขนลงเรือ ณ ท่าเรือในประเทศอิสราเอล

หรือเมื่อส่งมอบหน้าโรงงานแต่อย่างใด ตามสัญญาฯ เพียงกำหนดให้การไฟฟ้ามีหน้าที่ต้องจัดหาใบอนุญาต

ที่จำเป็นทุกชนิดและใบอนุญาตสำหรับการนำเข้าสินค้ามายังประเทศไทย และเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายทุก

ประเภท สำหรับการดำเนินพิธีการศุลกากรและอากรขาเข้าและภาษีอื่น ๆ ที่ประเทศไทยจัดเก็บ ณ

ท่าเรือที่นำสินค้าเข้า สำหรับสินค้าที่จัดหาโดยผู้รับจ้างและนำเข้ามาในประเทศไทยที่จะใช้และติดตั้งเป็น

การถาวร สำหรับงานภายใต้สัญญานี้ (ปรากฏข้อความตามส่วน 5 ข้อ 4 แห่งคำเชิญเข้าร่วมประมูล)

ซึ่งข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการไฟฟ้าเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกและจัดการเกี่ยวกับพิธีการ

นำเข้าเท่านั้น บริษัทฯ มีหน้าที่จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์จากต่างประเทศเพื่อนำเข้ามาใช้ในงานที่ประมูลได้

ดังกล่าวให้สำเร็จลุล่วงไป ดังนั้น กระบวนการตั้งแต่จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์จากต่างประเทศ จึงถือเป็นส่วน

หนึ่งของงานบริการที่ทำในประเทศไทย และการที่บริษัทฯ มีโครงการประกอบการติดตั้งดำรงอยู่เกิน 6

เดือน กรณีจึงถือได้ว่า บริษัทฯ ได้ให้บริการดังกล่าว โดยผ่านสถานประกอบการถาวรในประเทศไทย

ตามข้อ 5 วรรคสอง (ก) ของอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งประเทศ

อิสราเอล เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนฯ บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องนำค่าก่อสร้างและติดตั้งอุปกรณ์ระบบส่ง

กระแสไฟฟ้าทั้งหมดตามสัญญามารวมคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล เมื่อการไฟฟ้าจ่าย

เงินตามสัญญาไม่ว่าในงวดหนึ่งงวดใดก็ตามให้บริษัทฯ การไฟฟ้าจึงต้องหักภาษีเงินได้นิติบุคคล ณ ที่จ่าย

ในอัตราร้อยละ 1 ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ กรณีข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ตรงตาม

ข้อเท็จจริงในหนังสือตอบข้อหารือของกรมสรรพากรที่ กค 0802/9222 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2536

และไม่ตรงตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2540 แต่อย่างใด




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0706/3023 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2546

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)