การยื่นรายการของผู้ที่ถึงแก่ความตาย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการจ่ายเงินคืนเมื่อผู้ได้รับคืนเงินถึงแก่ความตาย
เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการจ่ายเงินคืนเมื่อผู้ได้รับคืนเงินถึงแก่ความตายข้อเท็จจริงสำนักงานสรรพากรอำเภอหารือแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจ่ายเงินคืนกรณีผู้ขอคืนเงินถึงแก่ ความตายโดยมีข้อเท็จจริงดังนี้ 1. นาย ก. ได้รับคืนเงินภาษีอากร ตามหนังสือแจ้งคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2542 จำนวน 20,231.90 บาท แต่นาย ก. ตายเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2542 2. นาย ข. บุตรของนาย ก. ได้นำหลักฐานแสดงการเป็นทายาทมาขอรับเงินภาษีคืนแทน นาย ก. สำนักงานสรรพากรอำเภอเห็นว่า กรณีเคยปฏิบัติจะจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ที่ศาลสั่งให้เป็น ผู้จัดการมรดกเท่านั้น และได้แนะนำให้ไปดำเนินการร้องขอต่อศาลเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย แล้วนำ คำสั่งศาลมาขอรับเงินคืน แต่นาย ข. โต้แย้งว่าการไปดำเนินการทางศาลต้องเสียค่าใช้จ่ายเสียเวลา ซึ่งจังหวัดฯ เห็นว่าเมื่อนาย ก. ได้รับคืนเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้วถึงแก่ความตาย เงินคืนภาษี ดังกล่าวจึงเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทตามมาตรา 1599 และมาตรา 1600 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในกรณีที่ทายาทไม่สามารถจัดการหรือมีเหตุขัดข้องในการจัดการหรือใน การแบ่งปันมรดกทายาทจะร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้จัดการมรดกก็ได้ ตามมาตรา 1713(2) แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในกรณีที่ทายาทตกลงแบ่งปันมรดกกันได้ ก็สามารถแบ่งปันมรดกโดยทำ เป็นสัญญาที่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อทายาททุกคนเพื่อให้ทายาทคนหนึ่งคนใดเป็นผู้รับเงินคืนก็ได้ ตามมาตรา 1750 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จังหวัดฯ หารือว่าความเห็นของ จังหวัดฯ ถูกต้องหรือไม่ สำนักงานสรรพากรภาคเห็นว่า กรณีตามข้อเท็จจริงที่หารือการจัดการกองมรดกนั้น หากมี ทายาทหลายคนทายาทเหล่านั้นมีสิทธิและหน้าที่เกี่ยวกับทรัพย์มรดกร่วมกันจนกว่าจะได้แบ่งมรดกกันเสร็จ แล้ว ตามมาตรา 1745 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้น ทายาทจะร่วมกันจัดการและแบ่งปัน มรดกในระหว่างกันเองในฐานะที่เป็นเจ้าของร่วมกันได้ ตามมาตรา 1358 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กรณีทายาทของนาย ก. ทำหนังสือให้นาย ข. เป็นผู้รับคืนเงิน ภาษีอากรของนาย ก. ที่กรมสรรพากรสั่งคืนให้นั้นสามารถทำได้และการรับเงินดังกล่าวเป็นการที่นาย ข. ทำการในฐานะตัวแทนของทายาทของนาย ก. ตามมาตรา 797 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อีกทั้งเมื่อทายาทของนาย ก. สามารถตกลงกันในเรื่องมรดกได้ก็ไม่ จำต้องร้องขอต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกตามมาตรา 1713(2) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉะนั้นหากข้อเท็จจริงปรากฏว่า ทายาททั้งหมดของนาย ก. ได้มอบให้นาย ข. เป็นผู้รับเงินภาษีของนาย ก.โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของทายาททุกคน สำนักงานสรรพากรอำเภอต้องจ่ายเงินคืนให้ นาย ข. โดยไม่จำต้องให้บุคคลดังกล่าวร้องขอต่อศาลเป็นผู้จัดการกองมรดกของผู้ตายแต่อย่างใด กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 27 ตรี, มาตรา 63, มาตรา 57 ทวิแนววินิจฉัยกองมรดกของผู้ตาย ได้แก่ ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตายและรวมตลอดทั้งสิทธิหน้าที่และ ความรับผิดต่าง ๆ ของผู้ตาย โดยสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดต่าง ๆ ที่จะเป็นมรดกตกทอดไปยังทายาท จะต้องไม่เป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้ตาย กรณีตามข้อเท็จจริงข้างต้น เมื่อผู้มีสิทธิรับคืนเงินภาษีถึงแก่ความตายสิทธิในการรับคืนเงิน ภาษีอากร ซึ่งไม่ใช่สิทธิเฉพาะตัวของผู้ตายย่อมเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาททันทีโดยผลของกฎหมายตาม มาตรา 1599 วรรคหนึ่ง และมาตรา 1600 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้น ทายาทมีสิทธิ ดำเนินการร่วมกันเพื่อขอคืนเงินภาษีอากรโดยให้ทายาททั้งหมดของ นาย ก.ทำหนังสือลงลายมือชื่อ มอบอำนาจให้ นาย ข. เป็นผู้รับคืนเงินภาษีอากรแทนทายาททุกคนตามมาตรา 1745 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หากกรณีทายาทไม่สามารถจัดการร่วมกัน หรือมีเหตุขัดข้องในการจัดการทายาทหรือ ผู้มีส่วนได้เสียอาจร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ ตามมาตรา 1713(2) แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และให้ผู้จัดการมรดกเป็นผู้ยื่นคำร้องขอรับคืนเงินภาษีอากรต่อไป ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/965 ลงวันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2544 |