การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ข้อเท็จจริงบริษัท ก.จำกัด ได้ทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2546 โดยมีมูลหนี้เดิมเป็นเงินต้นจำนวน 219.8 ล้านบาท และดอกเบี้ยค้างชำระจำนวน 135.3 ล้านบาท รวมมูลหนี้เดิมเป็นเงินทั้งสิ้น 355.1 ล้านบาท บริษัทฯ ได้ตกลงชำระหนี้ให้ บสท. เป็นเงินต้นจำนวน 219.8 ล้านบาท ดอกเบี้ยจำนวน 12.2 ล้านบาท รวมมูลหนี้ตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้เป็นเงินทั้งสิ้น 232.1 ล้านบาท โดยการผ่อนชำระหนี้ให้ บสท.ภายในกำหนดระยะเวลา 10 ปี ตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ดังกล่าว บสท. ได้ลดหนี้ดอกเบี้ยให้บริษัทฯ จำนวน 123 ล้านบาท บริษัทฯ จึงขอทราบว่า 1. รายได้ที่บริษัทฯ ได้รับจากการลดหนี้ดอกเบี้ยจาก บสท. บริษัทฯ จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 29 วรรคสอง แห่งพระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ. 2544 หรือไม่ 2. ตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 433) พ.ศ.2548 กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ที่กระทำในระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2548 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2549 หมายถึง กรณีลูกหนี้มีการเจรจาลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2549 ใช่หรือไม่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 433)แนววินิจฉัย1. กรณีตาม 1. การลดหนี้ดอกเบี้ยให้แก่บริษัทฯ เป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่ บสท. มีอำนาจดำเนินการได้ตามมาตรา 7 และมาตรา 57(1) แห่งพระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ. 2544 ดังนั้น การที่ บสท. ได้ลดหนี้ดอกเบี้ยให้แก่บริษัทฯ จึงเป็นการดำเนินการของ บสท. ที่ก่อให้เกิดรายได้แก่บริษัทฯ อันมิได้มีลักษณะเป็นเงินเดือน ค่าจ้างหรือรายได้อื่นตามที่คณะกรรมการบริหารสินทรัพย์กำหนด บริษัทฯ ย่อมได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 29 วรรคสอง แห่งพระราชกำหนดฉบับดังกล่าว 2. กรณีตาม 2. การยกเว้นภาษีตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 433) พ.ศ. 2548 จะต้องเป็นการปลดหนี้ ที่ได้กระทำในระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2548 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2549 ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0706/8576 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2549 |