Skip to Content

การขายอสังหาริมทรัพย์ ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย กรณีขายอสังหาริมทรัพย์ให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย กรณีขายอสังหาริมทรัพย์ให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


ข้อเท็จจริง

ห้างฯ ได้ขายอาคารที่พักอาศัยพร้อมที่ดินให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยแบ่งจ่ายเป็น

2 งวด งวดแรกเป็นจำนวนเงิน 44,752,500 บาท และงวดที่สองเป็นจำนวนเงิน 402,772,500

บาท ห้างฯ ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่กระทรวงการคลัง (เพื่อราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2543 เป็นจำนวนเงิน 447,525,000 บาท สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร

สาขาบางขุนเทียน ได้หักภาษีเงินได้นิติบุคคล ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1 ของราคาทุนทรัพย์ เป็น

จำนวนเงิน 4,475,250 บาท แต่สำนักงานตำรวจฯ ยังไม่ได้จ่ายเงินให้แก่ห้างฯ เพราะตามสัญญาได้

กำหนดเงื่อนไขให้ผู้จะขายต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้จะซื้อก่อนจึงจะได้รับเงินต่อมาเมื่อวันที่

28 เมษายน 2543 สำนักงานตำรวจฯ ได้จ่ายเงินงวดแรกให้แก่ห้างฯ ได้หักภาษีเงินได้นิติบุคคล ณ

ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1 ของราคาที่จ่าย และนำส่งกรมสรรพากรอีก เป็นจำนวนเงิน 447,525 บาท

ห้างฯ จึงหารือว่า

1. การที่สำนักงานที่ดินฯ ได้หักภาษีเงินได้นิติบุคคล ณ ที่จ่ายของห้างฯ ในอัตราร้อยละ 1

ของราคาทุนทรัพย์ในวันโอนกรรมสิทธิ์ เป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่

2. เมื่อสำนักงานตำรวจฯ ได้จ่ายเงินให้แก่ห้างฯ ไม่ต้องหักภาษีเงินได้นิติบุคคล ณ ที่จ่าย

ในอัตราร้อยละ 1 ของจำนวนที่จ่าย ตามมาตรา 50(4) และ (5) แห่งประมวลรัษฎากร ถูกต้อง

หรือไม่

3. การหักภาษีเงินได้นิติบุคคล ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1 ของสำนักงานตำรวจฯ เป็น

การหักภาษีซ้ำซ้อนกับสำนักงานที่ดินฯ หรือไม่

4. ในกรณีดังกล่าว ห้างฯ และสำนักงานตำรวจฯ ควรปฏิบัติอย่างไรจึงจะถูกต้อง


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 40(8)

แนววินิจฉัย

กรณีสำนักงานตำรวจฯ ได้ซื้ออาคารที่พักอาศัยพร้อมที่ดิน เข้าลักษณะเป็นการจ่าย

เงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร การคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

พิจารณาได้ดังนี้

1. กรณีผู้ขายเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำนักงานตำรวจฯ มีหน้าที่หักภาษี

ณ ที่จ่าย เมื่อมีการจดทะเบียน ตามมาตรา 50(5) แห่งประมวลรัษฎากร โดยคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย

ตามมาตรา 48(4)(ก) หรือ (ข) แห่งประมวลรัษฎากรแล้วแต่กรณี แต่ไม่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ใน

อัตราร้อยละ 1 ของจำนวนที่จ่ายตามมาตรา 50(4) แห่งประมวลรัษฎากร

2. กรณีผู้ขายเป็น “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล” ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร

และเงินที่จ่ายเป็นจำนวนตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป สำนักงานตำรวจฯ มีหน้าที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ

ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 1 ของจำนวนเงินที่จ่ายในแต่ละงวด ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

เท่านั้น ไม่มีหน้าที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 1 เมื่อมีการจดทะเบียน ตาม

มาตรา 69 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร อีก

เมื่อห้างฯ ถูกสำนักงานตำรวจฯ หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายจากเงินได้จำนวนเดียวกัน 2

ครั้ง จึงเป็นกรณีห้างฯ ถูกสำนักงานตำรวจฯ หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายไว้เกิน หรือผิด หรือซ้ำ ห้างฯ จึง

ต้องเป็น “ผู้ขอคืน” โดยยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากร ตามแบบ ค.10 ณ ฝ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่ายและคืน

ภาษี สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ และห้างฯ ไม่ต้องนำภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ถูกหักไว้เกิน หรือผิด หรือซ้ำ

ไปเครดิตในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลในรอบระยะเวลาบัญชีแต่อย่างใด




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/32577 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2543

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)