การขายสินค้า ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการจำหน่ายบัตรโดยสารพร้อมบัตรที่ระลึก
เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการจำหน่ายบัตรโดยสารพร้อมบัตรที่ระลึกข้อเท็จจริง1. บริษัทฯ ได้รับสัมปทานจากกรุงเทพมหานครให้ดำเนินการประกอบกิจการโครงการ ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง กำหนดระยะเวลา 30 ปี นับแต่วันแรกที่ระบบเริ่ม เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ บริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ประเภท 6.27 โดยได้รับสิทธิและประโยชน์ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้จาก การประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน มีกำหนดเวลาแปดปี นับแต่วันที่เริ่มมีรายได้จากการ ประกอบกิจการนั้น ตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 2. บริษัทฯ ได้จัดทำบัตรโดยสารรถไฟฟ้าเป็นกรณีพิเศษ เนื่องในโอกาสเปิดให้บริการ รถไฟฟ้าสายแรกของประเทศไทย โดยจัดทำบัตรโดยสารรถไฟฟ้าพร้อมกับบัตรที่ระลึก ซึ่งบัตรที่ระลึกจะ แสดงถึงภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยตราสัญลักษณ์งาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 5 ธันวาคม 2542 โดยบริษัทฯจะนำรายได้สุทธิจากการจำหน่ายบัตรโดยสารและบัตรที่ ระลึกดังกล่าวทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราช อัธยาศัย 3. บัตรโดยสารรถไฟฟ้ากรณีพิเศษ 1 ชุด มูลค่า 999 บาท ประกอบด้วย บัตรโดยสาร รถไฟฟ้าพิเศษ 1 ใบ ที่สามารถใช้บริการรถไฟฟ้า มูลค่า 500 บาท และบัตรที่ระลึก 4 ใบ มูลค่า 499 บาท บริษัทฯจำหน่ายบัตรโดยสารดังกล่าวรวมเป็นชุดโดยไม่แยกขาย และจะนำไปแจกให้แก่ผู้มาร่วมใน งานพิธีเปิดให้บริการรถไฟฟ้าด้วย 4. บริษัทฯ หารือว่า (1) บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับรายได้จากการจำหน่ายบัตรโดยสาร รถไฟฟ้า กรณีพิเศษ มูลค่าชุดละ 999 บาท ซึ่งประกอบด้วยบัตรโดยสารรถไฟฟ้ามูลค่า 500 บาท และ บัตรที่ระลึกมูลค่า 499 บาท ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่ (2) หากบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ มีสิทธิออกใบกำกับภาษี อย่างย่อตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ได้หรือไม่ (3) บริษัทฯ จะต้องนำรายได้จากการจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟฟ้ากรณีพิเศษมารวม คำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือไม่ ถ้าต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิ จะถือเป็นรายได้ ของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนหรือไม่ (4) ต้นทุนที่เกิดจากการจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟฟ้ากรณีพิเศษและส่วนของรายได้ สุทธิที่นำทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราช อัธยาศัย ถือเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้หรือไม่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 77/1(8)(9), มาตรา 77/2, มาตรา 81(1)(ณ), มาตรา 86/6, มาตรา 65 ตรี(3)แนววินิจฉัย1. บริษัทฯ ได้รับสัมปทานจากกรุงเทพมหานครให้ดำเนินการประกอบกิจการโครงการ ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ซึ่งเป็นการให้บริการขนส่งในราชอาณาจักร จึงได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81(1)(ณ) แห่งประมวลรัษฎากร กรณีบริษัทฯจัดทำบัตรโดยสารรถไฟฟ้ากรณีพิเศษ มูลค่า 999 บาท ซึ่งประกอบด้วยบัตรโดยสารรถไฟฟ้ามูลค่า 500 บาท และบัตรที่ระลึกมูลค่า 499 บาท บริษัท ฯจะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับมูลค่าบัตรโดยสาร 500 บาท เนื่องจากเป็นการให้บริการขนส่งใน ราชอาณาจักร สำหรับบัตรที่ระลึกซึ่งแสดงถึงภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหา มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เข้าลักษณะเป็นสินค้าที่บริษัทฯมีไว้เพื่อจำหน่าย ตามมาตรา 77/1(8) และ (9) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร 2. การจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟฟ้ากรณีพิเศษตาม 1. เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าใน ลักษณะขายปลีกและการให้บริการในลักษณะบริการรายย่อยแก่บุคคลจำนวนมาก บริษัทฯจึงมีสิทธิ ออกใบกำกับภาษีอย่างย่อตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร 3. รายได้ในส่วนของบัตรโดยสารรถไฟฟ้า มูลค่า 500 บาท ถือเป็นรายได้ของกิจการที่ ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติ ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 และรายได้ในส่วนของบัตรที่ระลึกซึ่งแสดงถึงภาพพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นรายได้ของกิจการที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งบริษัทฯ ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 4. บริษัทฯ สามารถนำต้นทุนที่เกิดจากการจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟฟ้ากรณีพิเศษไปถือ เป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในมาตรา 65 ตรี แห่ง ประมวลรัษฎากร และมีสิทธินำเงินที่ได้นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ไปถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ในส่วนที่ไม่เกิน ร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ ตามมาตรา 65 ตรี(3) แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากถือเป็นรายจ่ายเพื่อ การกุศลสาธารณะ กรณีบริษัทฯไม่สามารถแยกรายจ่ายดังกล่าวได้โดยชัดแจ้งว่าเป็นรายจ่ายของกิจการที่ ได้รับการส่งเสริมการลงทุน หรือเป็นส่วนของกิจการที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน และไม่มีเกณฑ์อื่นที่ จะเฉลี่ยรายจ่ายนั้นได้เป็นการเหมาะสมแล้ว ก็ให้เฉลี่ยรายจ่ายดังกล่าวออกตามส่วนของรายได้จาก กิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน และกิจการที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/12530 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2542 |