สมาคม ก. ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเป็นสมาคมเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2540 เพื่อให้การ
ช่วยเหลือสงเคราะห์แก่สมาชิกเมื่อถึงแก่ความตายด้วยการเก็บเงินบริจาคช่วยเหลือศพละ 20 บาท
สมาคมฯ มีรายได้จากเงินค่าสมัครเข้าเป็นสมาชิก เงินค่าลงทะเบียน เงินสงเคราะห์ และ
ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร ซึ่งสมาคมฯ มีความเห็นว่า เงินค่าสมัครเข้าเป็นสมาชิก เงินค่าลงทะเบียน
เงินสงเคราะห์ เป็นเงินได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ ส่วนดอกเบี้ยเงินฝากเป็นรายได้ที่ต้องนำมา
เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และเนื่องจากสมาคมฯ ได้จัดตั้งขึ้นใหม่ไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการเสีย
ภาษีว่าจะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของสมาคม (ภ.ง.ด.55) ภายใน 150 วันนับแต่วัน
สุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี จึงมิได้ยื่นแบบแสดงรายการภายในกำหนดเวลาเป็นเหตุให้สมาคมฯ ต้อง
เสียค่าปรับจากการยื่นแบบเกินกำหนด จึงขอทราบว่าความเข้าใจของสมาคมฯ เกี่ยวกับการเสีย
ภาษีเงินได้นิติบุคคลของสมาคมฯ ถูกต้องหรือไม่ และขอให้กรมสรรพากรพิจารณายกเว้นเงินค่าปรับและ
ขอคืนภาษีเงินได้นิติบุคคลจากเงินค่าบำรุงและค่าลงทะเบียนที่ได้เสียไปแล้วให้แก่สมาคมฯ ด้วยนั้น
1. กรณีเงินค่าสมัครสมาชิก เงินค่าบำรุงสมาคม เงินสงเคราะห์ล่วงหน้าที่ มาคมฯ ได้รับ
จากสมาชิก ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมาคำนวณเป็นรายได้ ตามมาตรา 65 ทวิ (13) แห่ง
ประมวลรัษฎากร หากสมาคมฯ ได้นำรายได้ดังกล่าวมายื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล
ไว้แล้ว (ยื่นรายการเมื่อพ้นเวลาที่กฎหมายกำหนด) กรณีถือเป็นการยื่นเสียภาษีโดยไม่มีหน้าที่ต้องเสีย
สมาคมฯ มีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีดังกล่าวได้ภายใน 3 ปี นับแต่วันที่ได้ยื่นรายการ ตามมาตรา 27
ตรี (1) แห่งประมวลรัษฎากร
2. กรณีดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร เป็นเงินได้ที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
สมาคมฯ จึงต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากดอกเบี้ยเงินฝากในอัตราร้อยละ 10 ของเงินได้ ตามข้อ
(2) (จ)แห่งบัญชีอัตราภาษีเงินได้ท้ายหมวด 3 ภาษีเงินได้
3. จากข้อ 2 สมาคมฯ มีหน้าที่ต้องนำรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารมายื่นแบบแสดง
รายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ใช้แบบ ภ.ง.ด.55) ภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบ
ระยะเวลาบัญชีตามมาตรา 68 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อตามข้อเท็จจริงปรากฏว่า สมาคมฯ มิได้ยื่น
รายการและชำระภาษีเงินได้ภายในกำหนดเวลาดังกล่าว และเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานประเมินยังมิได้
ออกหมายเรียกตรวจสอบ ดังนั้นเมื่อสมาคมฯ ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลดังกล่าว
สมาคมฯ ต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องเสีย ตามมาตรา
27 แห่งประมวลรัษฎากร และต้องรับผิดอาญาระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามมาตรา 35 แห่ง
ประมวลรัษฎากร โดยไม่ต้องเสียเบี้ยปรับแต่อย่างใด ทั้งนี้ ไม่อาจพิจารณายกเว้นเงินเพิ่ม และค่าปรับ
ทางอาญาให้เป็นการเฉพาะรายได้แต่อย่างใด
Article Number: 237
Author: Thu, Jul 28, 2022
Last Updated: Thu, Jul 28, 2022
Online URL: https://www.paseetax.com/article/มูลนิธิ-สมาคม-ภาษีเงินได้นิติบุคคล-กรณีการเสียภาษีเงินได้เกินกำหนดเวลาของสมาคม-237.html