ขอคืนภาษี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการขอคืนเงินภาษีอากรจากการขายฝากอสังหาริมทรัพย์


เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการขอคืนเงินภาษีอากรจากการขายฝากอสังหาริมทรัพย์


ข้อเท็จจริง

1.นาง ส.ได้ซื้อที่ดิน เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2552 ต่อมา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2552 นาง ส.ได้จดทะเบียนให้นางสาว พ. (บุตร) ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินดังกล่าวเป็นจำนวน 1 ใน 2 ส่วน

2.นาง ส. และนางสาว พ.ได้จดทะเบียนจำนองที่ดินข้างต้นไว้เป็นประกันหนี้กับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 ต่อมา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554 นาง ส. และนางสาว พ. ได้ไถ่ถอนจำนองที่ดินแปลงดังกล่าว พร้อมกับจดทะเบียนขายฝากที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (อพาร์ทเม้นต์) ให้แก่ (ผู้รับซื้อฝาก) มีกำหนดไถ่ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่ทำสัญญา ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินได้เรียกเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีธุรกิจเฉพาะ

3.เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2554 นาง ส. และนางสาว พ. ได้ไถ่ถอนการขายฝากที่ดินจากผู้รับซื้อฝาก และได้ชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ณ สำนักงานที่ดินไว้เป็นจำนวน 29,046 บาท ปรากฏตามใบเสร็จรับเงินในราชการกรมที่ดินเล่มที่ 54-033697 เลขที่ 19 และเลขที่ 23 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2554 เนื่องจากผู้รับซื้อฝากไม่ชำระค่าภาษีอากร

4.เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2555 นาง ส. และนางสาว พ. ได้ยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากร (ค.10) ที่ได้ชำระไว้ในวันที่ขายฝากที่ดิน ที่ได้ชำระไว้ในวันที่ไถ่ถอนการขายฝากที่ดิน เนื่องจากเห็นว่า การจดทะเบียนขายฝากและไถ่ถอนการขายฝากที่ดินนั้น ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร

แนววินิจฉัย

1.กรณีนาง ส. และนางสาว พ.ได้ขายฝากที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน (ไม่มีการบรรยายส่วนออกจากกันอย่างชัดเจน) ให้แก่ผู้รับซื้อฝากนั้น เข้าลักษณะเป็นการ "ขาย" ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร เงินได้จากการขายฝากอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร และเมื่อการขายฝากอสังหาริมทรัพย์นั้น เข้าลักษณะเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรตามมาตรา 4(6) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 เนื่องจากได้กระทำภายในห้าปีนับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้น การที่นาง ส. และนางสาว พ. ได้ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะไว้แล้ว นาง ส. และนางสาว พ. ย่อมมีสิทธิเลือกไม่ต้องนำเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่นาง ส. และนางสาว พ. ไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นคืน หรือไม่ขอเครดิตเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 376) พ.ศ. 2544

2.กรณีนาง ส. และนางสาว พ. นำสินไถ่ไปไถ่ถอนอสังหาริมทรัพย์คืนจากผู้รับซื้อฝากภายในเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาหรือภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดนั้น ตามมาตรา 492 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติว่า ให้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินซึ่งขายฝากตกเป็นของผู้ไถ่ตั้งแต่เวลาที่ผู้ไถ่ได้ชำระสินไถ่ ดังนั้น การไถ่ทรัพย์สินซึ่งขายฝาก จึงเข้าลักษณะเป็นการ "ขาย" ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร ผู้รับซื้อฝากจึงเป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร และมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เมื่อนางสาว พ. ผู้ขายฝาก ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีจากเงินได้พึงประเมินดังกล่าว จึงไม่มีกรณีที่จะต้องมายื่นคำร้องขอคืนภาษีในกรณีนี้ได้ นางสาว พ. ผู้ขายฝาก จึงไม่มีสิทธิได้รับคืนภาษีเงินได้ตามที่ร้องขอแต่อย่างใด




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ 0702/1873 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2557

Article Number: 2159
Author: Thu, Jul 28, 2022
Last Updated: Thu, Jul 28, 2022

Online URL: https://www.paseetax.com/article/ขอคืนภาษี-ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา-กรณีการขอคืนเงินภาษีอากรจากการขายฝากอสังหาริมทรัพย์-2159.html