แปลงเงินตราต่างประเทศเป็นเงินไทย ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการปรับปรุงผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา


เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการปรับปรุงผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา


ข้อเท็จจริง

บริษัทฯ กู้เงินจากต่างประเทศเมื่อปี 2539 จำนวน 2,000,000 US $ อัตราแลกเปลี่ยน

ในขณะนั้น 26 บาท ต่อ 1 US $ คิดเป็นเงินไทย 52,000,000 บาท ซึ่งบริษัทฯ ได้บันทึกบัญชีเป็น

เจ้าหนี้เงินกู้ต่างประเทศทั้งจำนวน ณ วันได้รับมาเรียบร้อยแล้ว และระหว่างปี 2539 บริษัทฯ ได้

ชำระเงินกู้ดังกล่าวไป 200,000 US $ ในอัตราแลกเปลี่ยน 26.12 บาท ต่อ 1 US $ และมีขาดทุน

จากอัตราแลกเปลี่ยน 24,000 บาท เมื่อสิ้นงวดบัญชี ปี 2539 คือวันที่ 31 ธันวาคม 2539 บริษัทฯ มี

หนี้สินเป็นเงินตราต่างประเทศ 1,800,000 US $ แต่บริษัทฯ มิได้ปรับปรุงกำไรหรือขาดทุนจากอัตรา

แลกเปลี่ยน

ต่อมาในปี 2540 เมื่อเดือนมิถุนายน 2540 บริษัทฯ ชำระเงินกู้ดังกล่าวเป็นงวดที่ 2 อีก

จำนวน 200,000 US $ อัตราแลกเปลี่ยนเป็น 26.45 บาท ต่อ 1 US $ มีผลขาดทุนจาก

อัตราแลกเปลี่ยน 90,000 บาท ต่อมาบริษัทฯ ชำระเงินกู้งวดที่ 3 เมื่อเดือนกันยายน 2540 จำนวน

200,000 US $ อัตราแลกเปลี่ยน 47.2445 บาท ต่อ 1 US $ มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน

4,248,000 บาท ดังนั้น เมื่อสิ้นงวดบัญชี ณ 31 ธันวาคม 2540 บริษัทฯ มีหนี้สินคงเหลือ 1,400,000

US $ ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นงวดบัญชีเท่ากับ 39.2206 บาท ต่อ 1 US $ แต่บริษัทฯ มิได้

ปรับปรุงในทางบัญชี ณ วันสิ้นงวดบัญชี ถึงผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เพราะบริษัทฯ มี

เหตุผล 3 ประการ ดังนี้

1. งวดบัญชีปี 2540 บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน (ซึ่งรวมถึงผลกำไรหรือ

ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในระหว่างงวดบัญชีแล้ว) ซึ่งถ้าบริษัทฯ ปรับปรุงผลขาดทุนจาก

อัตราแลกเปลี่ยนอีกจำนวน 18,508,000 บาท จะทำให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนเพิ่มขึ้น 21,508,000 บาท

2. บริษัทฯ เห็นว่า จากกรณีข้อ 1 จะทำให้สรรพากรได้เปรียบ ซึ่งถ้าหากปี 2541 บริษัทฯ

มีกำไรสุทธิเกินกว่า 3 ล้านบาท (เท่าที่บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากปี 2540) บริษัทฯ พร้อมที่จะชำระค่า

ภาษีเงินได้นิติบุคคล

3. เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรายังผันผวนอยู่มาก บริษัทฯ จึงมิได้ปรับปรุง

อัตราแลกเปลี่ยนผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นงวดบัญชี

ขอทราบว่า บริษัทฯ มีสิทธิที่จะไม่ปรับปรุงผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วัน

สิ้นงวดบัญชีปี 2540 ได้หรือไม่


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 65 ทวิ (5), คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540

แนววินิจฉัย

กรณีตามข้อเท็จจริง บริษัทฯ มีหนี้สินซึ่งมีค่าหรือราคาเป็นเงินตราต่างประเทศที่เหลืออยู่ใน

วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีให้คำนวณค่าหรือราคาของหนี้สินเป็นเงินตราไทยตามอัตราถัวเฉลี่ยที่

ธนาคารพาณิชย์ขาย ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยคำนวณไว้ ผลของการคำนวณถ้ามีผลกำไรหรือขาดทุน

จากการตีราคาหนี้สินดังกล่าว ให้นำมารวมคำนวณเป็นรายได้หรือรายจ่ายแล้วแต่กรณี ใน

รอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าวได้ทั้งจำนวนตามมาตรา 65 ทวิ (5) วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร

ประกอบกับข้อ 1 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 เรื่อง การปฏิบัติเกี่ยวกับการคำนวณ

รายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เนื่องจากการปรับปรุงระบบการ

แลกเปลี่ยนเงินตรา ลงวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2540

ดังนั้น บริษัทฯ จึงไม่มีสิทธิที่จะไม่ปรับปรุงผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วัน

สิ้นงวดบัญชีแต่อย่างใด




ที่มา:

หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/12918 ลงวันที่ 02 กันยายน 2541

Article Number: 185
Author: Thu, Jul 28, 2022
Last Updated: Thu, Jul 28, 2022

Online URL: https://www.paseetax.com/article/แปลงเงินตราต่างประเทศเป็นเงินไทย-ภาษีเงินได้นิติบุคคล-กรณีการปรับปรุงผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา-185.html