1. บริษัทฯ ประกอบกิจการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางค้า
โดยได้ดำเนินการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ คอนโดมิเนียม ในการพัฒนาโครงการดังกล่าว บริษัทฯ
ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดินและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตามพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดินได้กำหนดให้มีการบำรุงรักษา
สาธารณูปโภคและบริการสาธารณะ พร้อมกำหนดให้มีนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรเพื่อการบริหารและจัดการการอยู่ร่วมกันของสมาชิกใน
โครงการให้เกิดความผาสุกและปลอดภัย เพื่อเป็นการสนับสนุนการบริหารงานของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร พระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน
ได้กำหนดให้มีการจัดเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและการจัดการสาธารณูปโภคโดยเรียกเก็บจากผู้ซื้อ นอกจากนี้ ในทางปฏิบัติ
นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรอาจขอการสนับสนุนความช่วยเหลือจากเจ้าของโครงการ สำหรับรายการที่จำเป็นเพื่อการอยู่อาศัยของลูกบ้าน
2. บริษัทฯ ได้รับการร้องขอจากนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ
ที่ทางบริษัทฯ เป็นเจ้าของโครงการ ให้บริษัทฯ มอบที่ดินและอาคารคลับเฮ้าส์ที่เป็นทรัพย์สินของบริษัทฯ ซึ่งตั้งอยู่ข้างบริเวณโครงการฯ
ให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ เพื่อให้สภาพแวดล้อมและให้การอยู่อาศัยของลูกบ้านในโครงการดังกล่าวสะดวกสบาย
3. บริษัทฯ เห็นว่า เพื่อประโยชน์ของความเป็นอยู่ของลูก
บ้านของโครงการฯ ซึ่งบริษัทฯ เป็นเจ้าของโครงการ บริษัทฯ จึงมอบที่ดินและอาคารคลับเฮ้าส์ให้แก่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ และบริษัทฯ
ได้นำมูลค่าที่ดินและอาคารคลับเฮ้าส์ที่ได้มอบให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ มาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ เนื่องจากบริษัทฯ
เห็นว่าเป็นรายจ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกิจการไม่เป็นรายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ความเห็นของบริษัทฯ ถูก
ต้องหรือไม่
4. จากการไต่สวนเพิ่มเติม ปรากฏข้อเท็จจริง ดังนี้
4.1คลับเฮ้าส์ที่ได้
โอนให้กับนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ ตั้งอยู่บนที่ดินนอกผังของโครงการฯ แต่ติดอยู่กับที่ดินของโครงการฯ คลับเฮ้าส์มีเนื้อที่ 3 ไร่ 48.1
ตารางวา ราคาทุนที่ดินที่ซื้อมาราคาตารางวาละ 8,267.43 (ราคาประเมินตารางวาละ 6,300 บาท) รวมเป็นราคาต้นทุนที่ดิน จำนวน
2,877,893.66 บาท ซื้อมาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2546 และได้มีการก่อสร้างคลับเฮ้าส์ มูลค่ารวมจำนวน 16,625,595.17 บาท สร้างเสร็จเมื่อ
เดือนมกราคม 2548 บริษัทฯ คิดค่าเสื่อมราคาไปแล้วจำนวน 3,511,872.30 บาท คงเหลือมูลค่า ณ วันโอน (27 มีนาคม 2552) จำนวน
13,113,722.87 บาท
4.2สำหรับ
ทรัพย์สินในคลับเฮ้าส์ ที่บริษัทฯ ต้องโอนให้กับนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ ได้แก่ อุปกรณ์ฟิตเนส โต๊ะ เก้าอี้ คอมพิวเตอร์ มูลค่ารวมจำนวน
365,688.97 บาท ค่าเสื่อมราคาสะสม จำนวน 310,078.86 บาท คงเหลือมูลค่า ณ วันโอน จำนวน 55,610.11 บาท
4.3ในผัง
โครงการฯ ที่ขาย ไม่มีคลับเฮ้าส์ เมื่อขายบ้านในโครงการฯ เสร็จสิ้นนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ จึงได้ร้องขอให้บริษัทฯ มอบที่ดินและ
อาคารคลับเฮ้าส์ให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ บริษัทฯ จึงทำสัญญาให้ที่ดิน พร้อมอาคารเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2552 โดยตีราคาเพื่อเป็นทุน
ทรัพย์ในการเสียค่าธรรมเนียมไว้เป็นจำนวน 16,604,500 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายในการโอนให้ดังกล่าว นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ เป็นผู้ออกให้
แทนบริษัทฯ
4.4 การ
โอนอสังหาริมทรัพย์ที่ดินและอาคารคลับเฮ้าส์ให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ โดยไม่มีค่าตอบแทน บริษัทฯ มิได้บันทึกเป็นรายได้ทางบัญชี
โดยเห็นว่ามีเหตุอันควรที่จะไม่ถือเป็นรายได้ตามประมวลรัษฎากร
เนื่องจากกรณีที่บริษัทฯ โอนที่ดินพร้อมอาคารคลับเฮ้าส์
ให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ ไม่ใช่เป็นการโอนทรัพย์สินที่เป็น สาธารณูปโภคและบริการสาธารณะตามพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน พ.ศ.
2543 การโอนทรัพย์สินดังกล่าวไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตาม
ความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 378) พ.ศ. 2544 ฉะนั้น เมื่อบริษัทฯ โอนที่ดินพร้อมอาคารคลับเฮ้าส์ จึงถือเป็น
การโอนทรัพย์สิน โดยไม่มีค่าตอบแทนโดยไม่มีเหตุอันสมควร และพิจารณาภาระภาษีได้ดังนี้
1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล
1.1บริษัทฯ ต้อง
นำราคาตลาดของที่ดินและอาคารคลับเฮ้าส์ รวมทั้งค่าธรรมเนียม ค่าภาษี ค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ที่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ ออกให้
มารวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร
1.2บริษัทฯ มี
สิทธินำมูลค่าที่ดินของอาคารคลับเฮ้าส์ มาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ และกรณีที่บริษัทฯ บันทึกอาคารคลับเฮ้าส์ซึ่งปลูกสร้าง
บนที่ดินดังกล่าว เป็นทรัพย์สินของบริษัทฯ และได้หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาจากมูลค่าของสิ่งปลูกสร้างตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
เงื่อนไข และอัตราที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน
(ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527 เมื่อบริษัทฯ โอนอาคารคลับเฮ้าส์ดังกล่าวให้แก่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ บริษัทฯ มีสิทธินำมูลค่าอาคารคลับเฮ้าส์
ที่เหลืออยู่มาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้
2. ภาษีธุรกิจเฉพาะ
กรณีที่บริษัทฯ โอนที่ดินและอาคารคลับเฮ้าส์ให้แก่
นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ ถือเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ขายมีไว้ในการประกอบกิจการ ซึ่งเข้าลักษณะเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์
เป็นทางค้าหรือหากำไร ตามมาตรา 91/2(6) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา 4(5) แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 บริษัทฯ ต้องนำราคาตลาดของที่ดินและอาคารคลับเฮ้าส์
ซึ่งต้องไม่ต่ำกว่าราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามประมวลกฎหมายที่ดินซึ่งเป็นราคาที่
ใช้อยู่ในวันที่มีการโอน รวมทั้งเงินค่าธรรมเนียม ค่าภาษีและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ที่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ ออกแทน มารวม
คำนวณเป็นรายรับของบริษัทฯ ในการคำนวณเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/5(6) แห่งประมวลรัษฎากร
Article Number: 1233
Author: Thu, Jul 28, 2022
Last Updated: Thu, Jul 28, 2022
Online URL: https://www.paseetax.com/article/รายได้ที่ต้องนำมารวมคำนวณ-ภาษีเงินได้นิติบุคคล-กรณีรายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา-65-ตรี-แห่งประมวลรัษฎากร-1233.html