พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 79) พ.ศ. 2521 ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทการค้าระหว่างประเทศ 7229 Mon, Oct 3, 2022 พระราชกฤษฎีกา 134 พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 79)พ.ศ. 2521--------------------------ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.ให้ไว้ ณ วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2521เป็นปีที่ 33 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บริษัทการค้าระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมการส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักร อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 25 แห่งธรรมนั้น การปกครองราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2520 และมาตรา 3 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 79) พ.ศ. 2521" มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ดังต่อไปนี้ (1) สำหรับเงินได้ส่วนที่ได้จ่ายไปเป็นรายจ่ายในต่างประเทศของบริษัทการค้าซึ่งรายจ่ายนั้นไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร และเป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี(ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 7) (2) สำหรับเงินได้ส่วนที่จ่ายเป็นภาษีเงินได้ที่สาขาในต่างประเทศของบริษัทการค้าได้เสียให้กับประเทศอื่น ซึ่งรัฐบาลของประเทศนั้นมิไดทำสัญญาว่าด้วยการเว้นการเก็บภาษีซ้อนกับรัฐบาลไทย ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนถึงการที่บริษัทการค้าจะนำรายจ่ายดังกล่าวมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ คำว่า "บริษัทการค้า" หมายความว่า บริษัทการค้าระหว่างประเทศซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ส. โหตระกิตย์ รองนายกรัฐมนตรี ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายที่จะยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ส่วนที่ได้จ่ายไปเป็นรายจ่ายในต่างประเทศของบริษัทการค้า และเงินได้ส่วนจ่ายเป็นภาษีเงินได้ที่สาขาในต่างประเทศของบริษัทการค้าได้เสียให้กับประเทศอื่น ซึ่งรัฐบาลของประเทศนั้นมิได้ทำสัญญาว่าด้วยการเว้นการเก็บภาษีซ้อนกับรัฐบาลไทย ทั้งนี้เฉพาะบริษัทการค้าซึ่งเป็นบริษัทการค้าระหว่างประเทศที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ขึ้น (ร.จ.ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 118 ตอนที่ 85 ก วันที่ 27 กันยายน 2544)